ผู้ถือหุ้น‘วินด์’ยังระทึก เข้าตลาดหุ้นส่อสะดุด

ผู้ถือหุ้น‘วินด์’ยังระทึก  เข้าตลาดหุ้นส่อสะดุด

ผู้ถือหุ้น  ‘วินด์ ’ ระทึกอีกรอบ ส่อแววสะดุดปมใหม่เข้าตลาดหุ้น หลัง ‘ณพ ’ ระบุบริษัทยังไม่เป็นมหาชน ต้องใช้เสียงโหวตตามกฎหมาย 75% ลั่นไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวหลังหมดหน้าที่  ส่วน ‘โกลเด้น มิวสิค’เตรียมยื่นฟ้อง ‘ประเดช’ ผิดสัญญาชำระค่าหุ้น

ภายหลังจาก บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH มีการความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นรายใหญ่จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหารชุดใหม่ โดยแต่งตั้งให้นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 เข้ามาเป็นกรรมการ และมีมติอนุมัติปลด นายณพ ณรงค์เดช กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ออกจากการเป็นกรรมการบริษัทนั้น

ท่ามกลางกระแสข่าวเกิดจากความไม่พอใจที่ไม่สามารถผลักดันให้ WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ จนเป็นที่มาในการเปลี่ยนแปลงล่าสุด

นายณพ ณรงค์เดช อดีตผู้บริหารวินด์ เปิดเผย กับกรุงเทพธุรกิจว่า หลังจากจบประชุมผู้ถือตนขออยู่เฉยๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารใหม่เข้ามาดำเนินการนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นอย่างที่หวังเอาไว้ และเอาเวลาไปทำธุรกิจอื่นที่มีอยู่แทน หลังจากหมดห่วงและหมดหน้าที่แล้วสามารถสร้างผลดำเนินงานให้วินด์เติบโตและผลักดันโครงการต่างๆจนจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ครบ

ส่วนการดำเนินคดีความกรณีไม่ชำระค่าหุ้นของ นายประเดช เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพราะเคยทวงตามและดำเนินคดีมาก่อนหน้านี้ไม่เกี่ยวกับตน ซึ่งหลังจากจบประชุมผู้ถือหุ้นไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่อื่น

 ‘ตอนนี้ผมสบายมาก หมดห่วงหมดหน้าที่แล้วขอไปทำงานอื่นๆ ที่มีอยู่ เพราะในเมื่อทางนั้นสามารถนำ WEH เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยไม่ต้องมีผม ต้องปล่อยให้ดำเนินการไป ซึ่งผมอยู่เฉยๆ ไม่เข้าไปยุ่ง ปัจจุบันฐานะ วินด์ ยังไม่มีการแปลงเป็นบริษัทมหาชน ทำให้การจะเพิ่มทุนเพื่อระดมทุนเข้าตลาดหุ้นตามกฎหมายจำเป็นต้องอาศัยการโหวตเห็นชอบ 75 % ถึงจะสามารถดำเนินการได้‘

ทั้งนี้นายไกรศักดิ์ ขัดคำ ทนายความ บริษัท โกลเด้น มิวสิค จำกัด หรือ GML ปัจจุบันมีรายชื่อถือหุ้นอันดับ 1 ใน WEH 37.867 % ได้เตรียมยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อบังคับให้นายประเดช โอนหุ้น WEH จำนวน 14,390,244หุ้น หรือคิดเป็นประมาณ13% ที่ซื้อไปมอบคืนให้แก่ GMLหลังผิดสัญญาในการชำระค่าหุ้น และGMLได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น การที่นายประเดช ไม่ส่งคืนหุ้นที่ถูกเลิกสัญญาให้แก่ GML แต่กลับนำไปใช้ออกเสียงเพื่อประโยชน์ตนเองในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา จึงเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อ GML เป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์และส่วนได้เสียของบริษัท GML จึงได้ดำเนินการร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีเร่งด่วนก่อนเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อให้มีคำสั่งห้ามนายประเดชฯใช้สิทธิออกเสียงในหุ้นดังกล่าวในระหว่างนี้จนกว่าการพิจารณาคดีอนุญาโตตุลาการจะสิ้นสุด ซึ่งรวมถึงห้ามโอนขาย ยักย้าย จำหน่าย หรือก่อภาระผูกพันตลอดจนขออายัดหุ้นไว้ด้วย อย่างไรก็ตามศาลยังมิได้ทำการไต่สวนคำร้องให้