‘เอเซอร์’ ดันโปรเจค ‘ดิจิทัล’ หนุนแคมเปญท่องเที่ยว

เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ หนึ่งในยักษ์พีซี ที่มีจุดแข็งในความเป็นไอทีเข้าถึง “ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์” ของผู้คน ร่วมหาทาง “รอด” ในยุคที่ธุรกิจเผชิญกับวิกฤติรอบด้าน ล่าสุด ผนึกการท่องเที่ยว ผ่านแคมเปญ Work Anywhere, Travel Together

เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ หนึ่งในยักษ์พีซี ที่มีจุดแข็งในความเป็นไอทีเข้าถึง “ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์” ของผู้คน ร่วมหาทาง “รอด” ในยุคที่ธุรกิจเผชิญกับวิกฤติรอบ ผู้บริหารเอเซอร์ ให้ข้อมูลว่าภาพรวมตลาดไอทีในไทยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ยังติดลบอยู่ที่ 7% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2562 แต่คาดว่า ครึ่งปีหลังของปีนี้จะสามารถ cover 7% ที่หายไปได้

ล่าสุด ได้ผนึกการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผ่านแคมเปญ Work Anywhere, Travel Together ในโครงการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ชวนคนไทยออกเที่ยวทั่วไทย วันไหนก็เที่ยวได้ ทำงานได้ในทุกที่ ทุกเวลาในแบบดิจิทัลไลฟ์สไตล์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างสีสันให้การท่องเที่ยวไทย

“นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นหัวใจหลักขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทย ขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งผลสำรวจททท. ระบุว่าหนึ่งในเหตุผลที่คนไทยวางแผนท่องเที่ยวในระยะสั้น (เดินทางในจังหวัดที่พักอาศัย) คือ ไม่มีเวลาว่างจากการทำงาน

รองรับ Digital Nomad

นิธิพัทธ์ กล่าวว่า ในชั่วโมงที่ยังไม่มีการเปิดน่านฟ้าระหว่างประเทศ กลุ่มคนที่ปกตินิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ จะกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของภาคการท่องเที่ยว เพราะคนกลุ่มนี้กระหายในการเดินทาง และมีกำลังซื้อสูง จึงเป็นโจทย์สำคัญของภาคส่วนต่างๆ ที่จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในคนกลุ่มนี้

ทั้งพบว่า ปีนี้เป็นปีของ Digital Nomad ผู้ประกอบการอิสระหรือฟรีแลนซ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดเอาท์ซอร์สก็เติบโตมากขึ้น เนื่องจากบริษัทหลายแห่งต้องการลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้ธุรกิจ บางประเทศที่เห็นโอกาสจากเทรนด์ตลาดนี้ได้เริ่มออกแคมเปญ การสนับสนุนต่างๆ สำหรับคนกลุ่มนี้ให้สามารถย้ายที่ทำงานไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการออก Digital Nomad Visa โปรโมชันต่างๆ การลดหย่อนภาษี การให้วันหยุดที่ไม่นับเป็นวันหยุด ฯลฯ

“มีคำถามเกิดขึ้นว่าการเวิร์คเคชั่น (Workation) นั้น “เวิร์ค” จริงหรือ สำหรับ เอเซอร์ เรามองว่าการทำงานแบบ “work-life flow” คือ รูปแบบการทำงานที่ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน นั่นคือการโฟกัสประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าความพยายามที่จะบาลานซ์ชั่วโมงการทำงาน ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานนั้น นอกจากเรื่องโลเคชันจะมีส่วนช่วยในการสร้าง productivity ให้คนทำงานแล้ว ความพร้อมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบเน็ตเวิร์ค ก็เป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างสรรค์ผลงานครีเอทีฟต่างๆ รวมถึงคุณสมบัติของเครื่องอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานนอกสถานที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น”

แนวคิดล่าสุด จากกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สู่การคอแลปครั้งสำคัญของสองวงการ เป็นการดึงจุดแข็งเอเซอร์ผนวกกับความเป็นไอทีที่เข้าถึงดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของผู้คนมาเป็นอีกหนึ่งเรี่ยวแรงสำคัญในการขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยวในประเทศ ภายใต้แคมเปญ Make Your Mark Work Anywhere, Travel Together เกิดการท่องเที่ยวในรูปแบบ Hybrid: travel & work สอดคล้องไลฟ์สไตล์การทำงานของโลกยุคใหม่ ที่ไม่ยึดติดกับออฟฟิศ หรือ สำนักงาน ช่วยให้ท่องเที่ยวไปพร้อมการทำงานควบคู่กันได้ทุกที่ ทุกเวลา

ดึงจุดแข็งเทคฯช่วยท่องเที่ยว

ขณะที่ เอเซอร์จะโปรโมทวีดิโอการท่องเที่ยวในประเทศไทยไปกับช่องทางต่างๆ ของเอเซอร์ ที่กระจายไปยังผู้ใช้ในกลุ่มต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยมุ่งหวังว่าการร่วมมือในแคมเปญนี้ จะช่วยกระตุ้นและผลักดันให้การท่องเที่ยวไทยมีสีสันมากขึ้น จากวีดิโอที่เอเซอร์ถ่ายทำขึ้น จะเริ่มโปรโมทตามดิจิทัล มีเดียของเอเซอร์ในแถบ PAP (Pan Asia Pacific) เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชาแล้ว รวมถึงโปรโมทไปตามช่องทางต่างๆ ของ ททท. ด้วย

กฤษณะ แก้วธำรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของผู้คน และพื้นที่หรือสถานที่ทำงานในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศอีกต่อไปสำหรับคนยุคปัจจุบัน ทุกคนสามารถสร้างพื้นที่ทำงานของตัวเองที่ไหนก็ได้

การทำงานพร้อมกับการเลือกออกเดินทางไปในสถานที่ที่ตัวเองถูกใจ จึงเป็นไลฟ์สไตล์ ที่สามารถเห็นได้เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน การใช้เทคโนโลยีรวมถึงอุปกรณ์ที่สามารถตอบสนองได้ทั้งการทำงานและการท่องเที่ยว จึงสำคัญมาก อีกทั้งเทคโนโลยียังเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยในการเผยแพร่ สร้างการรับรู้ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง

"เทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูล ทั้งภาพ และเสียง และความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวได้ ทำให้การร่วมเป็นพันธมิตรกับเอเซอร์ จะสามารถเป็นฐานในการส่งข้อมูลและข่าวสารของแหล่งท่องเที่ยวได้อีกช่องทางหนึ่ง ส่งผลให้เกิดการรับรู้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น”