'สุพัฒนพงษ์' เชื่อมั่น ธปท.คุมปัญหาหนี้หลังจบมาตรการช่วยโควิดได้

'สุพัฒนพงษ์' เชื่อมั่น ธปท.คุมปัญหาหนี้หลังจบมาตรการช่วยโควิดได้

“สุพัฒนพงษ์” เชื่อมือ ธปท.คุมปัญหาหนี้ หลังสิ้นสุดมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ได้ พบกลุ่มผีเสื้อกระพือปีก ยันพร้อมรับฟังและสานต่อนโยบายพลังงานที่ดี

นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า  มาตรการยืดเวลาการชำระหนี้เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ที่บางส่วนจะครบกำหนดนั้น มั่นใจว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้มีมาตรการดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากความเข้มแข็งทางด้านการเงินของไทย การควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19  ที่มีระบบสาธารณสุขดี

อีกทั้งการที่ไทย มีการวิจัยและพัฒนา(R&D) และการลงทุน  เขตนวัตกรรม ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EECi) เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมเป้าหมาย จะทำให้ไทยสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนหลังโควิด-19 จบได้อย่างแน่นอน

“เมื่อโควิด-19 จบลง เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้จะสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ดีขึ้น และเชื่อมั่นว่า ธปท.จะดูแลได้ เพราะติดตามปัญหานี้มาตั้งแต่เดือน เมษายน และเตรียมทางออกที่ดีไว้แล้ว เช่น "โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง" (โครงการดีอาร์บิส) ซึ่งช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลายรายให้ได้รับการบรรเทาภาระหนี้และให้มีกลไกในการจัดการหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งได้อย่างบูรณาการ จึงเชื่อว่าธุรกิจของลูกหนี้สามารถฟื้นตัวได้ และปรับตัวให้เท่าทันกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ก็อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันไม่ให้มีการระบาดรอบ 2 " นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายสุพัฒนพงษ์ ยังกล่าวระหว่างการเข้าพบของตัวแทนจากกลุ่มผีเสื้อกระพือปีก ว่า พร้อมที่จะสานต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆด้ านพลังงานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน ขณะเดียวกันก็ต้องการให้มีการฟังข้อเท็จจริงๆ ต่างๆเพราะภาคประชาชนก็คือประชาชนคนไทยด้วยกัน

ด้านนายณกานต์ จันธิราชนารา แกนนำกลุ่มผีเสื้อกระพือปีก  กล่าวว่า สมัยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม โดยดึงเครือข่ายภาคประชาชนเข้าร่วมคณะทำงานฯ และได้มีการพิจารณาปรับโครงสร้างราคาน้ำมันได้สำเร็จด้วยการปรับลดราคาหน้าโรงกลั่นลง 50 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

และยังมีหลายเรื่องที่ยังต้องดำเนินการต่อทั้งโครงสร้างราคาน้ำมันในด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาษีน้ำมัน โครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ และการแก้ไขต้นทุนเอทานอล และไบโอดีเซลที่แพงส่งผลให้ประชาชนต้องแบกภาระราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เป็นต้น ดังนั้นต้องการให้สานต่อการทำงานคณะทำงานในชุดนี้ไว้คงเดิม