'ฝรั่งเศส‘ ได้รับสถานะ ’หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา' ของอาเซียน

'ฝรั่งเศส‘ ได้รับสถานะ ’หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา' ของอาเซียน

“ฝรั่งเศส” ได้รับสถานะ ’หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา’ ของอาเซียน พร้อมเดินหน้าความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สาธารณสุข และการศึกษา ให้สอดคล้องยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก

นายฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการยุโรปและการต่างประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์ระบุว่า ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2563 ได้เห็นชอบให้ฝรั่งเศสได้รับสถานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของอาเซียน

ฝรั่งเศสขอขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเวียดนามในฐานะประธานอาเซียน รวมถึงสำนักเลขาธิการอาเซียนที่ให้การสนับสนุน

 นับเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับอาเซียน ซึ่งต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันต่อพื้นที่อินโด-แปซิฟิก บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย การเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ ความเป็นพหุภาคี และความร่วมมือระหว่างประเทศ การได้รับสถานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของอาเซียนสอดรับกับยุทธศาสตร์ของฝรั่งเศสในอินโด-แปซิฟิก และจะช่วยให้ฝรั่งเศสมีส่วนร่วมมากขึ้นในการสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน สันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค

ฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในรูปแบบของความร่วมมือที่ยาวนานและมุ่งสู่อนาคต ผ่านเครือข่ายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยหน่วยงาน ศูนย์ และสถาบันวิจัยฝรั่งเศสซึ่งมีที่ตั้ง 140 แห่งในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ในภูมิภาคแห่งนี้มานานกว่า 25 ปี และได้ให้การสนับสนุนทางการเงินมากกว่า 4 พันล้านยูโร แก่โครงการมากกว่า 170 โครงการ นับตั้งแต่ปี 2553

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสมีการแลกเปลี่ยนทางการค้ากับอาเซียนในปี 2562 คิดเป็นมูลค่า 3.53 หมื่นล้านยูโร เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับปี 2561 และคิดเป็นสัดส่วน 3.3% ของมูลค่าการค้าต่างประเทศทั้งหมดของฝรั่งเศส โดยมีการส่งออกมายังอาเซียนเพิ่มขึ้น 1.5% คิดเป็นมูลค่า 1.65 หมื่นล้านยูโร และมีการนำเข้าจากอาเซียนเพิ่มขึ้น 8.7% คิดเป็นมูลค่า 1.88 หมื่นล้านยูโร 

อาเซียนเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญอันดับที่ 6 ของฝรั่งเศส รองจากสหภาพยุโรป (อียู) สหรัฐ สหราชอาณาจักร จีน และสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นตลาดนำเข้าอันดับที่ 5 ของฝรั่งเศส รองจากอียู จีน สหรัฐ และสหราชอาณาจักร 

ฝรั่งเศสส่งออกมายังสิงคโปร์คิดเป็น 53% ของการส่งออกทั้งหมดมายังอาเซียน เนื่องจากสิงคโปร์มีบทบาทเป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาค ขณะที่นำเข้าจากเวียดนามคิดเป็น 30% ของการนำเข้าทั้งหมดจากอาเซียน

ก่อนหน้าที่ฝรั่งเศสจะได้รับสถานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ได้ลงนามในสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia : TAC) นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศอินโดนีเซียได้รับแต่งตั้งให้ประจำสำนักเลขาธิการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสได้เดินทางเยือนสำนักเลขาธิการอาเซียนเป็นครั้งแรกในปี 2556 โดยฝรั่งเศสให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับแนวคิดความเป็นแกนกลางของอาเซียนในกรอบวิสัยทัศน์ของฝรั่งเศสต่อพื้นที่อินโดแปซิฟิกที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม