‘ทัวริสต์มอลล์’ พลิกเกมสู้วิกฤติ

ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น  กล่าวว่า ภาพรวมบรรยากาศการจับจ่ายในศูนย์การค้าขณะนี้คึกคักมากขึ้นจากความมั่นใจในมาตรการความปลอดภัยทั้งของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งบิ๊กแคมเปญ โปรโมชั่น ต่างๆ ทำให้ปริมาณลูกค้าหมุนเวียนในศูนย์การค้ากลับขึ้นมาเกือบเท่าปกติ และมียอดขายมากขึ้น 

อย่างเช่น เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต จัดบิ๊กแคมเปญครบรอบ 1 ปี ดีลพิเศษลดสูงสุด 90% และ วีคลี เซอร์ไพรซ์ เซล ลดออนท็อปสูงสุด 40% ถึงวันที่ 30 ก.ย. เซ็นทรัลเวิลด์ จัดแคมเปญ ซูเปอร์ เซล และเคลียแรนซ์เซลของห้างสรรพสินค้าอิเซตันที่ผ่านมาทำให้ยอดทราฟฟิกพุ่งสูงเท่าตัว! พร้อมกันนี้ เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ทยอยดึงร้านขนม ร้านอาหารเดิม และร้านต่างๆ จากอิเซตัน ย้ายมาอยู่ในเซ็นทรัลเวิลด์ เช่น ร้านพายแอปเปิ้ลANRI ร้านหมูทอด TONKATSU WAKO ร้านเบเกอรีพรีเมี่ยมสไตล์ฝรั่งเศส จากญี่ปุ่น SUNMOULIN ROYAL ซึ่งจะเป็นแม่เหล็กเพิ่มทราฟฟิกอย่างต่อเนื่อง

“มาตรการด้านความปลอดภัยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีส่วนทำให้ผู้คนมีความมั่นใจออกมาใช้ชีวิตและกล้าออกมาใช้จ่าย ผนวกกับการจัดแคมเปญต่างๆ”

ทั้งนี้ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัลวิลเลจ รวม 33 สาขา มีลูกค้ากลับมาใช้บริการ 80-90% บางศูนย์การค้า 100% ยกเว้น ทัวริสต์มอลล์ (Tourist Mall)  

โดยศูนย์การค้าที่กลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือ “ทัวริสต์มอลล์”  ได้เร่งปรับตัวเพื่อรับกำลังซื้อลูกค้าในประเทศเป็นหลัก! ผ่านการจัดตลาดสินค้าท้องถิ่นและสินค้าลดราคา มีการปรับรูปแบบกิจกรรมการตลาด นำผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้ามาจำหน่าย อาทิ ตลาดจริงใจมาร์เก็ต ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ รวมถึงเตรียมทำตลาดที่เน้นกลุ่ม Chinese Long Stay และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักอาศัยในเมืองไทย (Expat) กว่า 3 แสนคน 

กรุงเทพฯ ยังคงเป็นเมืองปลายทางอันดับ 1 ในไทย ขณะที่เมืองท่องเที่ยวหลัก ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา สมุย ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง รวมถึงโอกาสของเมืองรอง เช่น เชียงราย ซีพีเอ็นจึงมุ่งสร้าง “Social Voice” ต่อเนื่องตั้งแต่ Pre-Arrival หรือก่อนการเดินทางมา เพื่อเตรียมรับโอกาสที่จะมีกำลังซื้ออย่างมหาศาลหากตลาดรีบาวด์ (Rebound) ทำให้คนจีนและชาวต่างชาติไม่ลืมศูนย์การค้าเซ็นทรัล และอยากกลับมาเที่ยวเมืองไทยเป็นที่แรกเมื่อสถานการณ์กลับมาดีขึ้น 

สมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ศูนย์การค้าในเมืองได้รับผลกระทบจากโควิดค่อนข้างรุนแรงเพราะลูกค้าชาวต่างชาติหายไป 100% ขณะที่กำลังซื้อในประเทศชะลอตัว  

ทั้งนี้  เอ็ม บี เค ได้ปรับกลยุทธ์มุ่งเสริมบริการที่เป็นแม่เหล็กเจาะลูกค้าชาวไทยและเน้นต้องเดินทางมาใช้บริการด้วยตัวเองมากขึ้น เช่น บริการทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ทำบัตรประชาชน พร้อมเพิ่มร้านอาหารและร้านที่เกี่ยวข้องรองรับกลุ่มคนที่มารอใช้บริการดังกล่าว

“เราต้องดึงคนไทยเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเพื่อบาลานซ์สัดส่วนกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่หายไป ในอนาคตอยากเห็นสัดส่วน 50:50 จากเดิมเป็นต่างชาติ 60% คนไทย 40% เพื่อกระจายความเสี่ยง"

 เอ็มบีเค ยังกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยแคมเปญโปรโมชั่นและกิจกรรมการตลาด “ถี่” ดึงดูดลูกค้าใช้บริการในศูนย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ซบเซาเชื่อว่ากระทบตลาดไฮซีซั่นนี้อย่างแน่นอน แต่น่าจะได้เห็นมาตรการจากภาครัฐกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศในรูปแบบ “ช้อปช่วยชาติ” ให้เกิดแรงจูงใจในการใช้จ่าย

ขณะที่ มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานส่งเสริมการตลาดบริษัท สยามพิวรรธน์ จํากัด ผู้บริหารโกลบอลเดสทิเนชั่น วันสยาม (สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่) กล่าวว่า วันสยามมุ่งกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้าชาวไทยมากขึ้นผ่านอีเวนท์แคมเปญต่างๆ ซึ่งปัจจุบันวันสยามมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 30-40% ในจำนวนนี้ ชาวจีนเป็นลูกค้าหลักกว่า 50% ซึ่ง Bestcase อาจกลับมาในช่วงโกลเด้นวีค เดือน ต.ค.

ทางด้าน "ดิ เอ็มโพเรียม-ดิ เอ็มควอเทียร์" ศูนย์การค้าหรูใจกลางสุขุมวิทที่มีฐานลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยเช่นกัน ปรับกลยุทธ์เน้นกระตุ้นกำลังซื้อ “ลูกค้าต่างชาติอาศัยอยู่ในประเทศไทย” ที่ปัจจุบันมีจำนวนมาก มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง  ผ่านการผนึกพันธมิตรสร้างแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ ล่าสุด “EM EXPAT EXPO”  มอบความพิเศษในช่วง 1 เดือนนี้  มีไฮไลท์หมุนเวียนทุกสัปดาห์ เริ่มจาก  “EXPAT TRAVEL DEAL 2020”  ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวราคาพิเศษกระตุ้นให้เดินทางท่องเที่ยวไทย   “THE GREEN MARKET” ซึ่งริเริ่มและดำเนินงานโดยกลุ่ม Expat ที่อยู่ย่านสุขุมวิท มารวมตัวออกร้านจำหน่ายสินค้าออแกนิค ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม งานหัตถกรรมสินค้าทำมือ ของที่ระลึกต่างๆ และอาหาร

นอกเหนือจากกิจกรรมและโปรโมชั่น “คุ้มค่า” ยังมีสินค้าและบริการพิเศษสำหรับลูกค้า Expat เช่น แผนกสปอร์ตมอลล์ รวบรวมหลากหลายแบรนด์รองเท้าที่มีขนาด US11 ขึ้นไป จนถึง US16 สินค้ากีฬากอล์ฟมีทั้ง US และ Asian Spec ลดสูงสุด 60%