ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแต่ยังถูกกดดันจากสต็อกน้ำมันสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ราคา 37.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ราคา 40.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 500,000 บาร์เรล

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล

ขณะเดียวกัน อีไอเอ ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้จำนวน 210,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.32 ล้านบาร์เรล/วัน

นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการสังเกตการณ์ตลาดของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 17 ก.ย. โดยทางคณะกรรมการฯอาจมีการหารือกันเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันที่กำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า การประชุมดังกล่าวจะเน้นการกำชับให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต มากกว่าที่จะพิจารณาการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น