ผบ.ทบ. ประชุมทิ้งท้ายก่อนเกษียณ ยกคำ 'นายกฯ' ฝากทุกคนอย่าแตกแยก

ผบ.ทบ. ประชุมทิ้งท้ายก่อนเกษียณ ยกคำ 'นายกฯ' ฝากทุกคนอย่าแตกแยก

ผบ.ทบ. ประชุมทิ้งท้ายก่อนเกษียณ ยกคำ "นายกฯ" ฝากทุกคนยอมรับโผโยกย้าย อย่าแตกแยก เป็นเสาหลักปกป้องอธิปไตย พร้อมแนะ ผบ.หน่วย ถือธงนำแล้ว ต้องรับผิดชอบหน่วยและกำลังพล


มีรายงานว่า พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวในการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ว่า
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ฝากข้อห่วงใยต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 2 ของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเหล่าทัพเป็นกำลังหลัก และมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนรัฐบาลในการควบคุมโรคระบาด และกองทัพบกมีส่วนสำคัญ รับผิดชอบพื้นที่ช่องทางธรรมชาติรอบประเทศ พรมแดนติดต่อประเทศเพื่อนบ้าน จึงขอให้กองกำลังป้องกันชายแดนทุกกองทัพภาค รวมถึงหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จัดกำลังพลหน่วยรบพิเศษ ตรวจลาดตระเวนเข้มงวด ใช้ศักยภาพของหน่วยที่มี เพิ่มกำลังพลตรวจการณ์เฝ้าระวัง วางเครื่องกีดขวาง เพิ่มไฟส่องสว่าง พร้อมย้ำว่าประเทศไทยยังอยู่ในความเสี่ยง แม้จะได้การยอมรับจากทั่วโลกว่าสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้ในระดับยอดเยี่ยมก็ตาม

ส่วนเรื่องการปรับย้ายของกองทัพบก ทางรัฐมนตรีกลาโหม ได้เน้นย้ำว่ากองทัพบกต้องเป็นหนึ่งเดียว เป็นเสาหลักในการปกป้องอธิปไตยของชาติ กองทัพบกจะแตกแยกไม่ได้ การปรับย้ายทุกปี ย่อมมีคนสมหวังและไม่สมหวัง ขณะที่การปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพล ตนในฐานะ ผบ.ทบ. ได้หารือส่วนตัวกับ รัฐมนตรีกลาโหม เพื่อให้มีการตัดสินใจพิจารณาในตำแหน่งต่างๆ ให้เหมาะสม โดยพิจารณาจากขีดความสามารถ มากกว่าการพิจารณาจากอาวุโสรุ่น ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่าทุกคนทุกหน่วย จะต้องมีโอกาสเจริญก้าวหน้าที่ทัดเทียม สลับปรับเปลี่ยนหมุนเวียนให้มีการระบายอย่างเหมาะสม

พลเอก อภิรัชต์ ยังกล่าวสรุปในช่วงท้ายของการประชุมในหัวข้อ “2 ปีในการร่วมกันปฏิรูปกองทัพบก” โดยได้มีการยกประสบการณ์ชีวิตมาแลกเปลี่ยนให้ผู้บังคับหน่วยที่เข้าร่วมประชุม โดยบอกว่า สำหรับตนเองแล้ว ธงคือเครื่องเตือนสติ ทุกครั้งที่รับส่งธง จะนึกเสมอว่าอะไรอยู่ภายใต้ผืนธง ธงผู้พัน ธงผู้การ ต่างก็มีภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน ทุกผืนธงมันหนัก เพราะมันคือความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงเรื่องของเกียรติยศศักดิ์ศรี และการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้แก่กองทัพบก ต้องเริ่มที่ ต้นน้ำ ต้นกำเนิด ทั้งทหารกองประจำการ นักศึกษาวิชาทหาร อาสาสมัครทหารพราน นักเรียนนายสิบ นักเรียนนายร้อย ต้นน้ำเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร ระเบียบ หลักเกณฑ์ ให้สอดคล้องกับยุคสมัย บริบท และทัศนคติของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน พร้อมยกตัวอย่างการพัฒนาปรับปรุงระเบียบทรงผมของนักศึกษาวิชาทหาร , โครงการลบรอยสักให้แก่นักเรียนนายสิบ , การเปิดโอกาสให้ทหารกองประจำการได้เรียนหลักสูตรส่งทางอากาศ , การสร้างและพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนทหารพราน , หลักสูตร English program ของโรงเรียนในร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งโครงการนี้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงให้ความสนใจและชื่นชม

159981933240

ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้เชื่อมโยงให้เห็นถึงความสำคัญที่มีการปรับเกณฑ์การทดสอบร่างกาย และการทดสอบภาษาอังกฤษของผู้บังคับหน่วย ระดับผู้การและผู้พัน เหตุผลที่ผู้บังคับหน่วยต้องผ่านมาตรฐานดังกล่าว เพราะการเป็นผู้นำ ผู้บังคับหน่วย จะเป็นตัวสะท้อนขีดความสามารถและประสิทธิภาพของหน่วย ต้องสามารถดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี จึงจะสามารถเป็นผู้นำที่ดี นำพาหน่วยเจริญก้าวหน้าได้

สำหรับการจัดระบบกองทัพบก ให้มีความโปร่งใส มีมาตรฐานสากล ซึ่งปัจจุบันกองทัพบกได้เผชิญกับความท้าทายหลายรูปแบบ หนึ่งในเรื่องที่ ผบ.ทบ. ได้หารือร่วมกับหลายฝ่าย คือการจัดการสวัสดิการกำลังพลกองทัพบกให้มีความโปร่งใส เป็นที่เชื่อมั่นของสังคม รวมทั้งก่อประโยชน์แก่กำลังพลและครอบครัว รวมถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติด้วย ดังนั้นจึงมีการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก กับกรมธนารักษ์ และสวัสดิการภายในกองทัพบก อาทิ สถานพักฟื้นสวนสนประดิพัทธ์ สนามกอล์ฟ ซึ่งยืนยันว่า กำลังพลกองทัพบกจะได้รับสวัสดิการที่ทั่วถึง ราคาเท่าเดิม เพิ่มเติมคือการบริการระดับเยี่ยม เท่าเทียมมาตรฐานสากล และหัวใจสำคัญก็คือ ทหารอาชีพ อาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโรงแรม บริหารจัดการสนามกอล์ฟ เพราะโรงเรียนนายร้อยไม่มีหลักสูตรเหล่านี้ ดังนั้นการทำงานร่วมกันกับมืออาชีพ จึงน่าจะเป็นแนวทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ผบ.ทบ. ยังกำชับผู้บังคับบัญชา ต้องใส่ใจเรื่องสวัสดิการของผู้ใต้บังคับบัญชา เรื่องเดือดร้อนต่างๆ ทั้งทางด้านการเงิน ครอบครัวของกำลังพลไม่ได้รับการเยียวยา จากการเสียชีวิต หรือทุพพลภาพของกำลังพลระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เพราะเรื่องเหล่านี้คือขวัญและกำลังใจ

159981933357

และปิดท้ายด้วยการฝากข้อคิดในการทำงาน ให้มีวินัย พอเพียง ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา หน่วยจะดีไม่ดีพิจารณาอยู่ที่ผู้บังคับหน่วย คิดนอกกรอบได้แต่ไม่ผิดระเบียบ เมื่อสั่งอะไรตนก็ต้องทำได้เช่นกัน และการกำกับดูแลคือผลลัพธ์ของความสำเร็จ สิ่งที่หายากคือโอกาส ตอนนี้ทุกคนได้โอกาสเป็นผู้บังคับหน่วย ต้องหาวิธีลดช่องว่าง ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งโดยส่วนตัวของตน มีท่านนายกฯ เป็นแบบอย่าง ตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. เวลาไปไหนมาไหน ท่านจะพยายามลดภาระกำลังพลที่ต้องมารับมาส่ง การไปตรวจเยี่ยมแบบไม่เป็นทางการ จะทำให้เราเห็นปัญหาหลายๆเรื่อง ดังนั้นถ้า ผบ.หน่วย ลงไปคลุกคลีกับลูกน้องบ้าง ก็อาจจะได้รับรู้อะไรดีๆ

ส่วนการรับเรื่องร้องเรียนทาง "สายตรง ผบ.ทบ." นั้น เรื่องที่ต้องแก้ไขมากที่สุดคือ การเลื่อนยศ ตำแหน่ง เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน รองลงมาคือ สวัสดิการกำลังพล และสุดท้ายคือการถูกลงโทษโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ หลายเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามา แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง และแม่ทัพภาค หรือผู้บัญชาการกองพล ไม่มีทางทราบ ดังนั้น ผบ.หน่วย ทุกระดับจะต้องใส่ใจสวัสดิการ สิทธิ กำลังพลของลูกน้อง อย่าปล่อยปละละเลยเด็ดขาด เพราะผลลัพธ์ที่จะสะท้อนประสิทธิภาพผู้นำหน่วยได้มากที่สุด คือกำลังพลมีผู้นำที่พึ่งพาได้ เป็นแบบอย่างได้ หน่วยจะดีได้ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับหน่วย