ปรับลดลง

ปรับลดลง

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ ปรับลดลง แนวต้าน 1300 / 1305 จุด แนวรับ 1280 / 1276 จุด แนะนำ Trading Buy หุ้นขนาดเล็กที่มีประเด็นบวกเฉพาะ อาทิ SUPER (บริษัทคาดรายได้เติบโตสูงปีหน้า) PRM TTW KTC BJC (มี Opportunity Day) ส่วนหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่แนะนำเปิด Short หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (คาดกำไร 3Q20E ลดลงต่อเนื่อง)  ปัจจัยลบ คือ การร่วงลงของตลาดหุ้นโลก นำโดยแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

       1) อีซีบีคงดอกเบี้ยและคง QE ที่ระดับเดิม แต่ส่งสัญญาณบวกเพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ (+MINT TU CPF HANA DELTA WICE JWD AH SAT)

       2) สหรัฐฯ เรียกร้องให้กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนทบทวนความสัมพันธ์กับบริษัทจีน (-Geopolitical Risks)

       3) พรรคฝ่ายค้านยื่นเพิ่ม 4 ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาในวันที่ 23-24 ก.ย. แต่ความเสี่ยงของการเมืองนอกสภายังคงกดดันตลาด (-หุ้น High Beta)

       4) การปรับฐานของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีต่อเนื่อง โดยวานนี้กลับมาร่วงลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน (-หุ้นกลุ่มพลังงาน) ตัวเลข

เศรษฐกิจวันนี้

USA-เงินเฟ้อเดือน ส.ค. คาดปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 +0.3% MoM (Vs เดือน ก.ค. +0.6% MoM ), Core Inflation Rate เดือน ส.ค. คาด +0.2% MoM (Vs เดือน ก.ค. +0.6% MoM ), EU-รมว. คลัง ประชุม 2 วัน

Global market Summary

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ 1286-1298 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1290.89 จุด -2.51 จุด -0.19% วอลุ่ม 4.2 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง -3.13% บรรจุภัณฑ์ -2.48% ธุรกิจการเกษตร -1.94% โดยหุ้นบวก >4% SUPER AI JCK ส่วนหุ้นลบ >4% SCC STGT TASCO ICHI SCM PTL PIMO TTCL

- ตลาดหุ้นโลกกลับมาปิดลดลง: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดลบเป็นวันที่ 4 ในรอบ 5 วันทำการ DJIA -1.45% S&P500 -1.76% Nasdaq -1.99% หลังจากผิดหวังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงน้อยกว่าคาด นำลงโดยหุ้นเทคโนโลยี -2.28% จากการขายหุ้น FAANG ส่วนตลาดหุ้นยุโรป DAX -0.21% CAC40 -0.38% FTSE -0.16% หลังจากผลประชุมอีซีบีมีมติคงดอกเบี้ยและการทา QE ไว้ที่ระดับเดิม

- น้ำมันดิบร่วง แต่ทองคำขึ้นต่อ: ราคาน้ำมันดิบโลกกลับมาร่วง Brent -USD0.73 ปิดที่ USD40.06/บาร์เรล WTI -USD0.75 ปิดUSD 37.30/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนสูงกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล (Vs คาดลดลง 5 แสนบาร์เรล) ส่วนทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สามอีก +USD9.40 ปิดที่ USD1,964.30/ออนซ์ จากการร่วงลงของค่าเงิน USD

ประเด็นสำคัญ

+/- ECB Meeting: ผลประชุมอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ย และ QE วงเงิน 1.35 ล้านล้านยูโร แต่ส่งสัญญาณบวกเพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยปรับเพิ่มเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจปีนี้เป็น -8% (จากเดิม -8.7%) ก่อนที่จะเติบโต 5% และ 3.2% ในปี 2021-22E

- USA: วุฒิสภาไม่ผ่านร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสนอโดยพรรครีพับลิกัน 52 ต่อ 47 เสียง (ต้องการเสียงสนับสนุน 60 เสียง) โดยจะลดเงินช่วยเหลือรายสัปดาห์เหลือ USD300/สัปดาห์ แต่ไม่มีการให้เงินช่วยเหลือรัฐต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาด้านการเงิน

- USA: -Weekly Initial Jobless Claims ต่ำกว่าระดับ 1 ล้านราย เป็นสัปดาห์ที่สอง แต่สูงกว่าคาดการณ์ เป็น 8.84 แสนราย (Vs คาด 8.46 แสนราย และเท่ากับสัปดาห์ก่อนที่ 8.84 แสนราย)

- การเมือง: พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานสภา ชวน หลีกภัย จำนวน 4 ญัตติ ก่อนเสนอให้สภาฯ พิจารณาในวันที่ 23-24 ก.ย.

+ Opportunity Day: วันนี้ NER PRM TTW UPOIC LST KTC BJC

– อสังหาฯ: ธปท. ชี้จุดยืนมาตรการ LTV ไม่เป็นอุปสรรค (-กลุ่ม Residential)

– อินโดนีเซีย: ออกมาตรการ Lockdown ในหลายเมืองสาคัญ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. เพื่อควบคุมการระบาดของ COVID-19 (+ราคายาง STA TRUBB)

- การเมือง: มธ. แถลงการณ์ไม่อนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เข้าใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยในการจัดการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. นี้ แต่ทางกลุ่มฯ ยังคงยืนยันจะใช้พื้นที่ แม้จะไม่ได้รับอนุญาต

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: JWD RBF HANA

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: PRM KTC SUPER CBG CPF BEM AH

Derivatives: ปิดสถานะ Long S50U20P850 ทำกำไรตามแผนที่วางไว้ (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)