'กกต.' พร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ แจงส่งศาล รธน.วินิจฉัยสถานภาพ 'เทพไท'

'กกต.' พร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ แจงส่งศาล รธน.วินิจฉัยสถานภาพ 'เทพไท'

"อิทธิพร" ยัน "กกต." พร้อมจัดเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ ลั่นระเบียบ-เงิน-คนพร้อมหมด แจงส่งศาล รธน.วินิจฉัยสถานภาพ "เทพไท" เพื่อความชัดเจน

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 63 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการที่รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจมีการให้ กกต. ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ทราบจากข่าวหากได้รับเอกสารก็จะทำการศึกษาและสามารถให้รายละเอียดได้ แต่เมื่อวันที่ 8 ก.ย.คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ตามที่ กกต.เสนอ และส่งให้คณะกรรมการกฤษฏีกาดำเนินการตามขั้นตอนก่อนที่จะเสนอให้สภาฯพิจารณาต่อไป ดังนั้นถ้าต่อไปมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและจะทำการออกเสียงประชามติ ก็จะได้ดำเนินตามกฎหมายนี้และขอให้มั่นใจว่ากกต.จะดำเนินการภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดได้อยู่แล้ว

นายอิทธิพร กล่าวถึงการที่ กกต.มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพส.ส.ของนายเทพไท เสนพงศ์ ว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่จากกรณีถูกศาลนครศรีธรรมราช สั่งจำคุก 2 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ว่า กรณีดังกล่าว รัฐธรรมนูญมาตรา 82 กำหนดไว้ว่าหากกกต.เห็นว่ามีเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ จึงต้องรอคำวินิจฉัยของศาลก่อนจะมีการประสานรัฐบาลให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราชใหม่

เมื่อถามว่า กกต.จะมีการพิจารณายื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีนางนาที รัชกิจประการ ที่ถูกศาลฎีกาสั่งตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี จากเหตุยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ทำให้สมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลงหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กรณีนี้สมาชิกภาพของนางนาที สิ้นสุดลงของคำตัดสินของศาลฎีกาซึ่งเป็นที่สุด ทำให้เขาพ้นสภาพการเป็นส.ส.อยู่แล้ว และกฎหมายไม่เปิดช่องให้ยื่นศาลวินิจฉัยในกรณีลักษณะนี้ได้แต่กรณีของนายเทพไท เป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และอยู่ระหว่างรอการลงโทษ ซึ่งกกต.ต้องการความชัดเจนในเรื่องนี้จึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามต่อว่า หากในอนาคตนางนาที จะสามารถลงสมัครเลือกต้งท้องถิ่นได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า การพิจารณาเรื่องของคุณสมบัติว่าจะลงสมัครได้หรือไม่ หากมีการยื่นรื่องเข้ามา กกต.ก็พร้อมจะพิจารณา

นายอิทธิพร ยืนยันว่า ขณะนี้ กกต.มีความพร้อมจัดการเลือกต้งท้องถิ่นทุกระดับ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะประกาศให้การเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อใดและรูปแบบใดก่อน เพราะเรื่องการแบ่งเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กกต.ดำเนินการเสร็จทั่วประเทศตั้งแต่เดือนเมษายน เหลือเพียงกระบวนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่บ้างแต่ไม่มีปัญหา ส่วนเทศบาลเหลือเพียงอีก 15-16 แห่ง ที่ยังติดปัญหาเรื่องแนวเขต แต่คิดว่าสามารถดำเนินการได้ทัน ไม่น่าจะมีปัญหา ขณะที่งบประมาณในส่วนของการกำกับดูแลของกกต.ซึ่งรวมถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 กกต.ก็ได้รับการจัดสรรจำนวน 800 ล้านบาท ขณะที่ในเรื่องของบุคลากรการเลือกตั้งกกต.ท้องถิ่น ได้มีการเตรียมรายชื่อไว้พร้อมแล้วเช่นกันตั้งแต่เดือนเมษายน รอเพียงประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก็จะแต่งตั้งคนเหล่านี้ขึ้นมาทำหน้าที่และขณะนี้ได้เริ่มอบรมวิทยากรเพื่อที่จะได้ไปทำหน้าที่อบรมเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็จะมีการดำเนินการต่อเนื่องไป

"เราพร้อมจัดการเลือกตั้งทุกระดับ เพราะระเบียบต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการเตรียมการเรื่องบุคลากรอยู่ตลอดเวลา แต่จะเลือกอะไรก่อนเราไม่มีอำนาจไปกำหนดอยู่ที่รัฐบาลพิจารณา ซึ่งรัฐบาลก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณ หรือติดต่อกันอย่างเป็นทางการ แต่กับทางกระทรวงมหาดไทยมีการประสานเรื่องการทำงานเป็นระยะอยู่แล้ว