อียูจ่อฟ้องศาลหลังเจรจาอังกฤษละเมิดข้อตกลงเบร็กซิทล้มเหลว

อียูจ่อฟ้องศาลหลังเจรจาอังกฤษละเมิดข้อตกลงเบร็กซิทล้มเหลว

อียูจ่อฟ้องศาลหลังเจรจาอังกฤษละเมิดข้อตกลงเบร็กซิทล้มเหลว และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากอียูในช่วงสิ้นปีนี้ โดยไม่มีการทำข้อตกลง

นายมารอส เซฟโควิช รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียู ได้เจรจาฉุกเฉินกับนายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีอังกฤษ ที่กรุงลอนดอนในวันพฤหัสบดี(10ก.ย.)ขณะที่นายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าผู้แทนการเจรจาการค้าฝ่ายอียู ได้จัดการเจรจากับนายเดวิด ฟรอส ผู้แทนการเจรจาฝ่ายอังกฤษ ซึ่งเป็นการเจรจาเป็นรอบที่ 8 โดยไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ทั้งนี้ อียู ได้แจ้งให้อังกฤษยกเลิกร่างกฎหมาย Internal Market Bill แต่นายโกฟ ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม โดยระบุว่า ร่างกฎหมาย Internal Market Bill มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความชัดเจนต่อประเด็นที่ยังคงมีความกำกวมในข้อตกลงการแยกตัวออกจากอียูซึ่งหลังจากที่การเจรจาประสบความล้มเหลว อียูก็เตรียมพิจารณายื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้มีการลงโทษอังกฤษ

ภายใต้เงื่อนไขเบร็กซิท ทั้งอังกฤษและอียู จะต้องบรรลุข้อตกลงการค้าภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลง จะสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายต่อการค้าระหว่างอังกฤษและ อียูในช่วงเริ่มต้นปี 2564 และจะซ้ำเติมเศรษฐกิจ ซึ่งในขณะนี้ได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ด้านนายบาร์นิเยร์ กล่าวว่า อียูเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจากอียูในช่วงสิ้นปีนี้ โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) โดยอียู ได้แสดงความยืดหยุ่นต่ออังกฤษเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านการประมง และในด้านอื่นๆ แต่ทางฝ่ายอังกฤษไม่ได้แสดงท่าทีตอบรับแต่อย่างใด

“ทุกคนไม่ควรประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์ no-deal Brexit” นายบาร์นิเยร์ กล่าว

การเจรจาฉุกเฉินระหว่างอียูและอังกฤษมีขึ้น เนื่องจากอียูไม่พอใจกรณีที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ พยายามผลักดันร่างกฎหมาย Internal Market Bill ให้ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาอังกฤษ แม้ว่าร่างกฎหมายนี้มีเนื้อหาที่ขัดต่อข้อตกลงเบร็กซิทที่อังกฤษทำไว้กับอียูก่อนหน้านี้