‘Vitra’ นั่งนี้โลกต้องจำ

เก้าอี้ เป็นเครื่องเรือนสามัญประจำบ้านอีกประเภทหนึ่ง และมีความหลากหลายของงานดีไซน์ตามจินตนาการของ นักออกแบบ ที่ต้องการนำเสนอความคิดของตนเอง แสะสร้างสรรค์สิ่งที่ตรงใจ-เข้ากับไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้าน

แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับตำนานจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Vitra (วิทร้า) ทำงานร่วมกับนักออกแบบที่มีชื่อเสียงของโลกหลายคน ให้กำเนิดเก้าอี้ที่ ‘งานดีไซน์’ เป็นที่จดจำของคนในวงการออกแบบด้วยกัน บ้างได้รับการยกย่องให้เป็นชิ้นงานระดับไอคอนแห่งยุค บ้างแปลกใหม่ล้ำหน้าจนต้องรออีกหลายปีกว่าเทคโนโลยีการผลิตจะตามทัน

ชิ้นงานคลาสสิกของ ‘วิทร้า’ ที่คนในวงการออกแบบรู้จักกันเป็นอย่างดี มีเก้าอี้ระดับตำนานหลายชิ้นสำคัญ

Standard Chair (เก้าอี้ สแตนดาร์ด)

1. Standard Chair (เก้าอี้ สแตนดาร์ด)

ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ฌอง พูร์เว่ (Jean Prouvé) ตั้งแต่ปีค.ศ.1934 ด้วยดีไซน์แปลกตา ขาของเก้าอี้ด้านหน้าและด้านหลังมีขนาดไม่เท่ากัน เนื่องจากมีงานวิจัยว่า ธรรมชาติของเก้าอี้ส่วนที่รับแรงกดมากที่สุดคือ ‘ขาหลัง’ ซึ่งต้องรองรับน้ำหนักตัวส่วนบนของผู้นั่ง

มร.พูร์เว่จึงเลือกใช้ ‘ท่อเหล็ก’ ทำเป็นขาหน้าของเก้าอี้ ส่วนขาหลังทำจาก 'ท่อกลวงขนาดที่ใหญ่กว่า' เพื่อถ่ายแรงกดหลักลงสู่พื้น ส่วนที่นั่งและพนักพิงหลังทำด้วยไม้ เลือกได้ 3 แบบ คือไม้โอ๊คสีธรรมชาติ ไม้วอลนัททำสีเข้ม และไม้โอ๊คสีเข้มเคลือบผิวไม้ ... 86 ปีแล้วที่ขนาดขาเก้าอี้ไม่จำเป็นต้องใหญ่เท่ากัน

Fauteuil de Salon (อาร์มแชร์ โฟเตยล์ เดอ ซาลอง)

2. Fauteuil de Salon (อาร์มแชร์ โฟเตยล์ เดอ ซาลอง)

ออกแบบไว้ในปี 1938 โดย ฌอง พูร์เว่ เช่นกัน เป็นแบบอย่างของอาร์มแชร์ที่มี ความงามของโครงสร้างอย่างชัดเจน ในวิธีการออกแบบของเขา นักออกแบบหลายคนเห็นตรงกันว่า คาแรคเตอร์ที่ดูเรียบง่ายของ "โฟเตยล์ เดอ ซาลอง. ทำให้อาร์มแชร์ดีไซน์นี้เข้ากับการออกแบบตกแต่งภายในได้หลายรูปแบบ

สัดส่วนต่างๆ ของอาร์มแชร์ เบาะรองนั่งที่กว้างเพียงพอสำหรับการนั่ง ที่พักแขนทำด้วยไม้แข็งขัดเงา ช่วยให้การนั่งเต็มไปด้วยความสบาย

Panton Chair (เก้าอี้แพนตัน)

3. Panton Chair (เก้าอี้แพนตัน)

ออกแบบโดย เวอร์เนอร์ แพนตัน (Verner Panton) ดีไซเนอร์ชาวเดนมาร์กผู้บุกเบิกการออกแบบเก้าอี้จาก วัสดุพลาสติกแบบไร้รอยต่อ ออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 1960 และได้รับการพัฒนาเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตจริงกับ ‘วิทร้า’ ในปี 1967 

ปัจจุบัน เก้าอี้แพนตัน ผลิตจากพลาสติกโพลีโพรพิลีน (dyed-through polypropylene) สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100% มีสีสันให้เลือกหลายสี ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในชิ้นงานไอคอนของการออกแบบประจำศตวรรษที่ 20 ได้รับรางวัลด้านการออกแบบระดับนานาชาติมากมาย และได้รับการนำไปจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกหลายแห่ง

Organic Chair (เก้าอี้ออร์แกนิค)

4. Organic Chair (เก้าอี้ออร์แกนิค)

เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างสถาปนิกชาวอเมริกัน ชาร์ลสส์ อีมส์ (Charles Eames) และสถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายฟินแลนด์ แอโร ซาริเนน (Eero Saarinen) ร่วมกันออกแบบเก้าอี้ขนาดเล็กและสะดวกสบายสำหรับนั่งอ่านหนังสือ เพื่อส่งเข้าประกวดใน ‘Organic Design in Home Furnishings’ ซึ่ง MoMA (Museum of Modern Art) ในนิวยอร์ก จัดขึ้นในปี 1940

ด้วยมีรูปทรงอย่างงานประติมากรรม การออกแบบที่ล้ำเกินหน้าเทคโนโลยีการผลิตของทศวรรษปีสี่ศูนย์ เก้าอี้ออร์แกนิคของอีมส์และซาริเนนไม่เคยได้รับการผลิตจนกระทั่งถึงปี 1950 นวัตกรรมการผลิตจึงตามทันการออกแบบ ตัวเก้าอี้ขึ้นรูปด้วยวัสดุลามิเนต เบาะนั่งเป็นโฟมโพลียูรีเทนหุ้มผ้า ขาเก้าอี้เป็นไม้โอ๊คสีธรรมชาติและไม้แอชสีดำ

Heart Cone Chair (เก้าอี้ฮาร์ตโคน)

5. Heart Cone Chair (เก้าอี้ฮาร์ตโคน)

ออกแบบโดย เวอร์เนอร์ แพนตัน เมื่อปี 1958 ตั้งชื่อตามรูปลักษณ์การออกแบบที่มีโครงร่างคล้าย รูปหัวใจ สวยล้ำ นั่งสบาย หรูหรา เสริมความภูมิฐานด้วยขาเก้าอี้เนื้อวัสดุสเตนเลสสตีลขัดให้พื้นผิวเป็นแบบด้าน

เป็นเก้าอี้ที่มีรูปลักษณ์แฟนตาซีกว่าเก้าอี้แบบเดิมๆ ที่ใช้สอยกันมาก่อนปี 1958

Eames Elephant (เก้าอี้ อีมส์ เอเลเฟนต์)

6. Eames Elephant (เก้าอี้ อีมส์ เอเลเฟนต์)

เก้าอี้ตัวนี้ปรากฏโฉมครั้งแรกในปี 1945 เกิดจากการที่สองสามีภรรยานักออกแบบชาวอเมริกัน ชาร์ลส์ และ เรย์ อีมส์ (Charles & Ray Eames) หยิบของเล่นรูปตัวช้างมาออกแบบเป็นเก้าอี้ โดยใช้ไม้อัด(plywood)เป็นวัสดุ แต่ในปีนั้นไม่ได้ผลิตออกจำหน่าย ชิ้นงานต้นแบบได้รับการนำไปจัดแสดงใน ‘MoMA นิวยอร์ก’ ตั้งแต่ปี 1946 จนถึงวันนี้

หลังการผลิตแบบจำกัดจำนวนในปี 2007 ตอนนี้วิทร้าผลิต ‘เก้าอี้ อีมส์ เอเลเฟนต์’ ออกวางจำหน่ายแล้วด้วยขนาดส่วนสูง 41.5 เซนติเมตร กว้าง 35 เซนติเมตร ยาว 78.5 เซนติเมตร ทำจากไม้อัดปิดผิวด้วยไม้อเมริกันเชอร์รี่ และยังทำเป็นเวอร์ชั่นขนาดเล็กสำหรับเด็ก ผลิตด้วยพลาสติก มีให้เลือกหลากสี

Stool-Tool (สทูล-ทูล)

7. Stool-Tool (สทูล-ทูล)

ม้านั่งเดี่ยวแบบไม่มีพนักที่ดูเหมือนขั้นบันไดนี้เป็นผลงานของนักออกแบบเชิงอุตสาหกรรมชาวเยอรมัน คอนสแตนติน เกรอซิก (Konstantin Grcic) เมื่อปี 2016 เป็นการรวม 'เก้าอี้' และ 'โต๊ะ' ไว้ในเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียว 

ถ้าใช้ประโยชน์ในแง่เก้าอี้ ก็นั่งได้หลายรูปแบบ ถ้าใช้นั่งและทำงาน..ก็ยังมีพื้นที่เล็กๆ อีกส่วนใช้ประโยชน์เสมือนโต๊ะสำหรับวางของเพื่อทำงานได้ ใช้งานได้อเนกประสงค์ในออฟฟิศ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ หรือหากต้องการพื้นที่ทำงานมากขึ้นแบบเร่งด่วน ก็สามารถซ้อน ‘สทูล ทูล’ ขึ้นไปเก็บในแนวตั้งได้

 

บริษัท นอร์ส รีพับบลิคฯ นำเข้าเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ ‘วิทร้า’ เข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยโดยเปิดโชว์รูมเป็นส่วนต่อขยายพิเศษภายใน นอร์ส รีพับบลิค ไลฟ์ สเปซ โซลูชั่น ซอยสมคิด กรุงเทพฯ

โชว์รูมส่วนต่อขยายนี้ตั้งอยู่บนชั้น 2 พื้นที่ 230 ตารางเมตร สะท้อนตัวตนของแบรนด์ผ่านการตกแต่งภายใต้คอนเซปต์ Live Office (ไลฟ์ ออฟฟิศ) ที่แตกต่างไปจากโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ รายละเอียดคลิก www.norserepublics.com

“วิทร้า เป็นแบรนด์ดังที่ได้ความนิยมและมียอดขายสูงสุดในยุโรป ด้วยดีไซน์ที่มาพร้อมกับคุณภาพและเทคนิคการผลิตขั้นสูง โดยเป็นผลงานโมเดิร์นดีไซน์ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของคนร่วมสมัย มีการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งในด้านเทคโนโลยีควบคู่ไปกับงานฝีมือ ทำให้แบรนด์นี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในระดับครัวเรือนไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลางของโปรเจคยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่สนามบินดูไบ, พิพิธภัณฑ์ Museum of Modern Art (พิพิธภัณฑ์โมเดิร์นอาร์ต) ที่นิวยอร์ก, พิพิธภัณฑ์ เทต โมเดิร์น(Tate Modern ) ที่ลอนดอน, สำนักงานใหญ่ของเฟนดิ (Fendi) ที่โรม หรือสำนักงานใหญ่ของอมอร์แปซิฟิค(Amorepacific) ที่โซล เป็นต้น ทาง นอร์ส รีพับบลิค จึงเชื่อมั่นว่า วิทร้า จะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคนี้ที่กำลังมองหาหรืออยากปรับเปลี่ยนมุมที่นั่งทำงานประจำ ให้มีกำลังใจทำงานได้ตลอดทั้งวัน” วีกฤษฏิ์ พลาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์ส รีพับบลิค จำกัด กล่าวในวันเปิดโชว์รรูมพื้นที่ส่วนขยายให้กับวิทร้า

โซฟา Alcove ออกแบบจากความต้องการเป็นส่วนตัว, Grand Repos เก้าอี้นวมแบบพนักพิงหลังมีปีกออกมา 2 ข้าง, อาร์มแชร์ Fauteuil de Salon, Restin Bear Front โฟมขึ้นรูปเหมือน “หมีนอนหลับ” บนฐานไม้หุ้มด้วยผ้าถัก ใช้เป็นที่นั่งพิง ม้านั่ง หรือที่พักเท้าก็ได้

ภายในโชว์รูมยังมีชิ้นงานร่วมสมัยของนักออกแบบคนดังอย่าง โรนัน และ เออร์วาน บูรูลเลค (Ronan and Erwan Bouroullec), เฮลลา จองเกอเรียส(Hella Jongerius), แจสเปอร์ มอร์ริสัน(Jasper Morrison) ซึ่งล้วนสามารถปรับให้เข้ากับพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่ทำงานที่หลากหลาย

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ได้เป็นอย่างดี