'ชาญศิลป์' ลุ้นศาลล้มละลาย 14 ก.ย.นี้ มั่นใจทำแผนฟื้นฟูเสร็จใน 3 เดือน

'ชาญศิลป์' ลุ้นศาลล้มละลาย 14 ก.ย.นี้ มั่นใจทำแผนฟื้นฟูเสร็จใน 3 เดือน

“ชาญศิลป์” ลุ้น 14 ก.ย.นี้ ศาลตัดสินฟื้นฟูกิจการ มั่นใจเร่งเจรจาเจ้าหนี้ พร้อมทำแผนเสร็จใน 3 เดือน

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศาลล้มละลายกลางนัดอ่านคำสั่งพิจารณาคดีการบินไทยขอฟื้นฟูกิจการวันที่ 14 ก.ย.นี้ ซึ่งศาลจะมีคำสั่งว่าจะให้การบินไทยทำแผนหรือไม่และหากศาลให้การบินไทยทำแผนฟื้นฟูจะต้องรอดำเนินการให้ผู้ร้องขอและผู้คัดค้านยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีภายใน 7 วัน

ส่วนกระบวนการหลังจากนั้น การบินไทยจะให้เจ้าหนี้มายื่นคำขอรับชำระหนี้ ซึ่งการบินไทยและกรมบังคับคดีเตรียมพร้อมแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหนี้ โดยเจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 1 เดือน นับแต่คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนประกาศในราชกิจจานุเบกษา

“ใช้เวลาอีก 1 เดือนถึงจะรู้ว่าเจ้าหนี้มีใครบ้างและจากนั้นต้องทำแผนฟื้นฟู ต้องเจรจาเจ้าหนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไร ให้เจ้าหนี้เห็นชอบตามแผนฟื้นฟู จากนั้นยื่นศาลอีกครั้งหนึ่ง ว่ารายละเอียดดำเนินการจะเป็นอย่างไร ขั้นตอนเหล่านี้ก็จะใช้เวลา 2-3 เดือน หลังจากวันที่ 14 ก.ย.นี้ ดังนั้นก็ต้องอยู่ที่ศาล เราต้องเคารพในคำตัดสินของศาล”

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า การทำงานครั้งนี้ต้องหารือเจ้าหนี้ที่คุ้นเคย และเมื่อยื่นแผนฟื้นฟูไปมีเจ้าหนี้สนับสนุน 50-60% ส่วนที่คัดค้านก็รับฟังมี 15-16 ราย เป็นหนี้ไม่เกิน 1-2% ของหนี้ทั้งหมด เพียงแต่ผู้โดยสารกังวลตั๋วเครื่องบิน กลุ่มรอยัล ออร์คิด พลัส (Royal Orchid Plus) แต่ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว เพราะถือว่าเป็นหนี้ที่การบินไทยทำการดูแลอยู่แล้ว

รายงานข่าวระบุว่าศาลล้มละลายกลางไต่สวนพยานลูกหนี้ผู้ร้องขอและสืบพยานเจ้าหนี้ผู้คัดค้านการฟื้นฟูกิจการการบินไทย3 ครั้ง โดยมีเจ้าหนี้ยื่นคัดค้าน16 ราย 16 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.เจ้าหนี้ถือบัตรโดยสาร 2.เจ้าหนี้จากสหกรณ์ออมทรัพย์วชิรพยาบาล จำกัด 3.เจ้าหนี้จากบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

ขณะที่ระหว่างการไต่สวนพยานผู้ร้องขอและสืบพยานเจ้าหนี้ผู้คัดค้าน เจ้าหนี้ผู้คัดค้านได้ยื่นถอนคำคัดค้าน5 ราย ประกอบไปด้วย ผู้คัดค้านที่ 4 ผู้คัดค้านที่ 5 ผู้คัดค้านที่ 7 ผู้คัดค้านที่ 8 และผู้คัดค้านที่ 16 หรือเจ้าหนี้จากบริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

ในส่วนของประเด็นที่เจ้าหนี้ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อซักถามพยานลูกหนี้ และมีการไต่สวนสืบพยานไปก่อนหน้านี้ มีประเด็นสำคัญที่ถูกสอบถามอย่างมาก อาทิ การตั้งบริษัทอีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นคณะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการเพราะไม่มีประสบการณ์การทำแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทและต้องมาทำแผนฟื้นฟูกิจการธุรกิจระดับแสนล้านบาท รวมทั้งเป็นคนละบริษัทกับบริษัทอีวาย ผู้ตรวจสอบบัญชีระดับโลก

รวมไปถึงความเหมาะสม และขอบเขตงานของบริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด รวมทั้งค่าตอบแทนที่บริษัทอีวายฯจะได้รับจากบริษัทการบินไทยเดือนละ 15 ล้านบาทว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ และประเด็นข้อกังวลของเจ้าหนี้เกี่ยวกับสินทรัพย์และหนี้สินของการบินไทย รวมถึงสภาพคล่องในการดำเนินงาน รวมถึงแผนการชำระหนี้หากการบินไทยไม่สามารถจะฟื้นฟูได้จะมีแผนใช้หนี้อย่างไร