กพร.หนุนเครื่องคัดแยกโลหะสู่ต้นแบบรีไซเคิลขยะอุตสาหกรรม

กพร.หนุนเครื่องคัดแยกโลหะสู่ต้นแบบรีไซเคิลขยะอุตสาหกรรม

กพร. เปิดตัว เครื่องคัดแยกโลหะจากซากแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ประสิทธิภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แห่งแรกในไทย หวังดันเป็นต้นแบบรีไซเคิลให้ภาคอุตสาหกรรม

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการ Innovation in Raw Materials Conference 2020: The Implementation of Circular Economy ของ กพร. ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลของ กพร. ในปีนี้ ได้ต่อยอดผลงานเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแต่งแร่ ด้วยการออกแบบและพัฒนา เครื่องคัดแยกทางกายภาพหรือทางกล เพื่อบดย่อยและคัดแยกส่วนประกอบต่าง ๆ จากซากแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลในขั้นตอนต่อไป ซึ่งเครื่องคัดแยกนี้ นับเป็นเครื่องจักรต้นแบบสมัยใหม่เครื่องแรกในประเทศไทย

159964864990

โดยสามารถแยกส่วนประกอบต่าง ๆ ในซากแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กลุ่มโลหะที่ไม่ติดแม่เหล็ก (เช่น ทองแดง ดีบุก ทองคำ เงิน อะลูมิเนียม) กลุ่มโลหะที่ติดแม่เหล็ก (ได้แก่ เหล็ก และนิกเกิล) และส่วนประกอบที่ไม่ใช่โลหะ (เช่น Epoxy Resin, Fiberglass) ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดนี้สามารถนำกลับมาสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ได้ใหม่

จากความสำเร็จครั้งนี้ ทำให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลของ กพร. สามารถรองรับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์” ของประเทศได้

159964866062

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้นทุกปี และกำลังเป็นปัญหาของประเทศ ดังนั้นการพัฒนาเครื่องจักรและเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ต้นแบบนี้จะสร้างระบบรีไซเคิลได้อย่างครบวงจร จะช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ทำให้ไม่จำเป็นต้องส่งวัตถุดิบที่มีค่าออกไปรีไซเคิลในต่างประเทศ

จากการประเมิน พบว่า การรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศประมาณ 500,000 ตันต่อปี โดยเปลี่ยนเป็นทรัพยากรที่มีค่าเพื่อเป็นวัตถุดิบทดแทนให้แก่ภาคอุตสาหกรรมไทย จะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในประเทศกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี และหากเราสามารถจัดการขยะหรือของเสียอื่น ๆ ทั้งจากภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศกว่า 50 ล้านตันต่อปี ได้อย่างเป็นระบบ