ธปท. เผยความคืบหน้าช่วยลูกหนี้ พุ่ง 7.2 ล้านล้าน 12.5 ล้านบัญชี

ธปท. เผยความคืบหน้าช่วยลูกหนี้ พุ่ง 7.2 ล้านล้าน  12.5 ล้านบัญชี

ธปท. เปิดเผยความคืบหน้าช่วยลูกหนี้ ตามมาตรการแบงก์ สิ้นก.ค.แล้ว 7.2ล้านล้านบาท หรือ12.5 ล้านบัญชี พร้อมเร่งผลักดันการช่วยเหลือต่อผ่าน โครงการ DR BIZ

     ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยความคืบหน้าของมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ด้วยการเลื่อนพักชำระหนี้ การขยายเวลาชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย

   รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ จากการประเมินล่าสุดคาดว่า จะมีลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือในสัดส่วนสูงที่ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือต่อไปเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ได้รับความช่วยเหลือ และในระยะต่อไป ธปท. ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลลูกหนี้ตามความสามารถในการชำระหนี้ของแต่ละราย

    ตามที่ ธปท. ได้ออกมาตรการและประสานกับสถาบันการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นั้น

    นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธปท. เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุด 31 กรกฎาคม2563 มีลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินทั้งสิ้น 7.2 ล้านล้านบาท คิดเป็น 12.5 ล้านบัญชี

   โดยลักษณะการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจ นั้น ครอบคลุมทั้งการเลื่อนพักชำระหนี้ การลดภาระผ่อนชำระต่อเดือนด้วยการขยายระยะเวลาชำระหนี้ตามสัญญา การลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ตามสัญญาใหม่

    ธปท. ได้ขอให้สถาบันการเงิน ประเมิน  สถานการณ์ของลูกหนี้รายย่อยและลูกหนี้ธุรกิจที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินในรูปแบบต่าง คาดว่า จะมีลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือในสัดส่วนสูงที่ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือต่อไปเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ได้รับความช่วยเหลือ

   โดยลูกหนี้ในส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ หรือผ่อนปรนการชำระหนี้ต่อไปหลังจากมาตรการช่วยเหลือที่เคยได้รับสิ้นสุดลง เพื่อรอให้สถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายลง และเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น

    ในระยะต่อไป ธปท. ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลและแก้ไขปัญหาของลูกหนี้ตามความสามารถของแต่ละรายโดย ธปท. มีโครงการร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ

    ในชื่อ"โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง" (โครงการดีอาร์บิส) เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลายรายให้มีกลไกจัดการหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งได้อย่างเบ็ดเสร็จ

    นอกจากนี้ สำหรับลูกหนี้รายย่อยธปท. ร่วมกับสถาบันการเงินเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (debt consolidation)

     โดยนำสินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นที่อยู่ภายใต้ผู้ให้บริการทางการเงินเดียวกันมาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยวิธีการรวมหนี้กับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อใช้ประโยชน์จากหลักประกัน เพื่อให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยต่อไปได้ตามความสามารถของแต่ละราย