ศาลฎีกา สั่งกักขัง 'นพ.เปรมศักดิ์' แทนจำคุก คดีจับนักข่าวถอดกางเกง

ศาลฎีกา สั่งกักขัง 'นพ.เปรมศักดิ์' แทนจำคุก คดีจับนักข่าวถอดกางเกง

ศาลฎีกา สั่งกักขัง "นพ.เปรมศักดิ์" อดีตนายกเทศมนตรีบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมพวก 2 เดือน แทนโทษจำคุก คดีจับนักข่าวถอดกางเกง เนื่องจากจำเลยวางเงินค่าสินไหมทดแทน 100,000 บาท เยียวยาจิตใจโจทก์ร่วม และสำนึกผิด ขณะที่โจทก์ไม่ขอรับเงิน

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 63 นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ จำเลยที่ 1 และ ร.ต.บัวทอง โลขันธ์ จำเลยที่ 2 เดินทางมาถึงศาลจังหวัดพล ซึ่ง นพ.เปรมศักดิ์ เดินมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยวันนี้ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีข่มขืนใจ บังคับขู่เข็ญ และกระทำอนาจาร ซึ่งศาลฎีกาได้เปลี่ยนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จากจำคุกจำเลยทั้ง 2 เป็นกักขังคนละ 2 เดือน ซึ่งศาลมีดุลยพินิจว่าจำเลยสำนึกผิด โดยได้นำเงิน 1 แสนบาทมาวางต่อหน้าศาลเพื่อเยียวยาผู้เสียหาย อีกทั้งจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน

หลังฟังคำตัดสินของศาล ทนายของ นพ.เปรมศักดิ์ และ ร.ต.บัวทอง อยู่ระหว่างดำเนินการร้องขอเรื่องสถานที่กักขัง ซึ่งจะต่างจากการจำคุก ไม่ต้องเข้าเรือนจำ หรือแดนขังและสามารถเยี่ยมผู้ต้องขังได้วันละ 1 ครั้ง

นายปกาญ นพศรี ทนายความฝ่ายโจทย์ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ศาลฎีกาพิพากษา ต้องเคารพคำพิพากษาของศาล จะก้าวล่วงไม่ได้ ซึ่งการกักขังขณะนี้ทางทนายฝั่งผู้ต้องหายื่นคำร้องเรื่องสถานที่กักขัง ส่วนการเปลี่ยนโทษจากจำคุก เป็นกักขังนั้น ศาลมองว่าจำเลยมีการเยียวยาโดยการวางเงินชดใช้ค่าเสียหาย ถือว่าจำเลยได้มีการสำนึกจึงได้ลดโทษให้จากจำคุกเป็นกักขัง

สำหรับการกักขังสถานที่กักขังประเทศไทยขณะยังไม่มีสถานที่กักขัง แต่ก็จะมีกรรมวิธีกักขังจะกักขังที่บ้าน โดยใช้กำไล EM หรือกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว แล้วให้ไปกักตัวในสถานที่กำหนด

ส่วน นายปราโมทย์ ศรีบุระ ตัวแทนสื่อมวลชน เปิดเผยว่า การตัดสินคดีในวันนี้รอมา 3 ปีเศษ และเคารพในคำตัดสินของศาลฎีกา ซึ่งส่วนตัวถือว่าพอใจในคำตัดสินในระดับหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้คาดหวังว่าโทษน่าจะสูงกว่านั้น ตลอด 3 ปีมีการพูดคุยกับสื่อทั้ง 5 คน ว่าการลดโทษหมอเปรมน่าจะเป็นการรอลงอาญาหรือว่าไม่รอลงอาญาเท่านั้น แต่วันนี้ศาลพิพากษามาแล้วคือเปลี่ยนจาก "จำคุก" เป็น "กักขัง" ส่วนเงินสด 1 แสนบาทที่ทางหมอเปรมพร้อมพวกนำมาเยียวยานั้น หมอเปรมนำเงินมาวางไว้ที่ศาล เพื่อแสดงเจตนาการเยียวยาสื่อมวลชนไม่ได้รับมาแต่อย่างใด เพื่อป้องกันคำครหาและให้เป็นคดีตัวอย่างที่สื่อมวลชนไม่ควรถูกคุกคาม

สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่น ได้ติดตามทำข่าวกรณีมีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพ นพ.เปรมศักดิ์ นั่งคู่กับหญิงสาวชั้น ม.5 คล้ายพิธีหมั้น หรือพิธีมงคลสมรสของชาวภาคอีสาน ผู้สื่อข่าวทั้งหมดจึงได้ขอพบและสัมภาษณ์ นพ.เปรมศักดิ์ ภายในที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นอย่างมาก

ก่อนจะให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักจะเข้าไปภายในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ และถูก นพ.เปรมศักดิ์ สั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลฯให้เก็บโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายภาพ พร้อมล็อกตัวนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวอาวุโส 1 ใน 5 ผู้สื่อข่าวแก้ผ้าประจาน ต่อมาผู้สื่อข่าวเข้าแจ้งความเอาผิด นพ.เปรมศักดิ์ พร้อมพวก กระทั่งถูกศาลสั่งกักขังคนละ 2 เดือน