ถกด่วน! หามาตรการ 'บล็อกเว็บ' พนันออนไลน์

ถกด่วน! หามาตรการ 'บล็อกเว็บ' พนันออนไลน์

ถกด่วน “ดีอีเอส-กสทช.-ตำรวจ-ไอเอสพีรายย่อยในประเทศ” หามาตรการบล็อคเว็บพนันออนไลน์

หลังส่งผลกระทบเศรษฐกิจและสังคม วงเงินหมุนเวียนนับพันล้าน พบปัญหาเซิร์ฟเวอร์อยู่นอกประเทศ สั่งปิดทันทีไม่ได้ ชี้ 3 หน่วยงานต้องร่วมมือ เผยสั่งปิดนับพันเว็บต่อปีแต่กลับมาเปิดใหม่ นักวิชาการเสนอแก้กฏหมายล้าหลัง

วันนี้ (9 ก.ย.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย (ไอเอสพี) ได้กำหนดประชุมหารือเรื่อง การระงับการเข้าถึงเว็บไซต์พนันออนไลน์ในเวลา 13.30 น. ณ อาคารหอประชุมชั้น 2 สำนักงาน กสทช.

โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการ เลขาธิการ กสทช. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาการพนันออนไลน์มีผลกระทบมากมาย ทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสร้างความเดือดร้อนแก่คนในครอบครัว แต่ที่ผ่านมาการปิดเว็บไซต์ หรือเซิรฟ์เวอร์ไม่สามารถทำได้ทันทีต้องอาศัยอำนาจของทางสำนักงานตำรวจและกระทรวงมหาดไทย และด้วยต้นทางของเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศไทย จึงทำให้เมื่อเว็บ หรือยูอาร์แอลที่เป็นพนันออนไลน์แล้วก็จะเปลี่ยนชื่อและไปเปิดในชื่อใหม่

ที่ผ่านมา ดีอีเอสก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามดำเนินการทางกฎหมายอยู่ตลอด และด้วยเหตุนี้ภายใต้การอำนวยการของ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอศ.ตร.) ทำการสืบสวนจนนำไปสู่การจับกุมกว่า 20 รายใหญ่ทั่วประเทศ วงเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การพนัน

ขอปชช.แจ้งข้อมูล“ดีอีเอส”

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนท่านใดพบเห็นสื่อโฆษณาหรือโพสต์ชักชวนให้เล่นการพนันออนไลน์ สามารถแคปหน้าจอ พร้อมแจ้ง Link หรือ URLs เว็บนั้น ๆ ส่งมาโดยตรงที่เพจ “อาสา จับตา ออนไลน์” ทาง inbox คลิก m.me/DESMonitor จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขอประชาชนร่วมมือร่วมใจปราบการพนันออนไลน์ เพื่อไม่ให้กระทบต่อลูกหลาน หรือคนในครอบครัว

ขณะที่นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดีอีเอส กล่าวเพิ่มเติมว่า การสั่งปิดเว็บพนันออนไลน์นั้น กระทรวงดีอีเอสไม่สามารถสั่งปิดได้โดยตรง เนื่องจาก พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 20 ได้มีการแก้ไขปรับปรุงการสั่งปิดเว็บพนันออนไลน์ ต้องอาศัยฐานข้อมูลจาก พ.ร.บ.พนันออนไลน์ เหมือนลักษณะเดียวกับการจับลิขสิทธิ์ต้องใช้ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2563 ฉบับปรับปรุงแก้ไขใน มาตรา 14 กระทรวงดีอีเอส สามารถดำเนินการสั่งปิดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบได้โดยตรง โดยอาศัยอำนาจจากศาลฯ

3 หน่วยงานต้องร่วมมือในการปิด

“ดังนั้นถ้าต้องการให้กระทรวงดีอีเอส ปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ต้องทำหน้าที่ร่วมกัน คือ ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย และ ดีอีเอส ถึงจะสามารถดำเนินการสั่งปิดเว็บไซต์ได้” นายภุชพงค์ กล่าว

ปอท.รับแก้ยากปิดแล้วเปิดใหม่

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท. ) และโฆษก บก.ปอท. กล่าวว่า แนวทางการดำเนินการของ ปอท. เกี่ยวกับการแก้ปัญหาพนันออนไลน์นั้น ดำเนินการ 3 มิติ มิติแรก คือ การจับกุมผู้ให้บริการพนันผิดกฎหมาย มิติที่ 2 คือ เสนอไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อปิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 20 และมิติที่ 3 คือ การเข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ไม่เหมาะสม เว็บการพนันในสถานศึกษา

ยอมรับว่าการดำเนินการป้องกันและปราบปรามดำเนินการยาก เพราะเว็บไซต์ และโซเซียล เหล่านี้เข้าถึงง่าย และเข้าถึงทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีโมบายแบงกิ้ง ทำให้สะดวกในการโอนรับจ่ายเงินได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น ขณะที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์พนันออนไลน์นั้น ส่วนใหญ่จะจดทะเบียนเว็บ และตั้งเซิร์ฟเวอร์ให้บริการในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ แม้ว่าจะปิดกั้น URL ไปแล้วก็จดทะเบียนเว็บใหม่

ปิดปีละ 1,000-1,500 เว็บไซต์

ทั้งนี้ประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือเชิญชวนจากผู้ให้บริการ ไม่เอาตัวเข้าไปมีส่วนร่วมกระทำการผิดกฎหมาย โดยเว็บไซต์พนันผิดกฎหมายส่วนใหญ่จะชักจูงใจโดยให้เครดิตเชิญชวนเข้าไปเล่นทดลองก่อน เมื่อสมัครเป็นสมาชิก ก็ให้ใส่ข้อมูลส่วนบุคคล เลขบัตรประชาชน บัตรเครดิต เบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่า จะเอาข้อมูลไปกระทำผิดกฎหมายหรือไม่

นอกจากนี้ อาจถูกเว็บพนันเหล่านั้นหลอกลวงได้ หลอกให้ท่านโอนเงินเพื่อเข้าเล่น แต่เมื่อเล่นไปสักพัก ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง และต้องการถอนคืน แต่เว็บพนันนั้นเบี้ยวไม่โอนคืนให้

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ปอท. ดำเนินการติดตามจับกุม และปิดเว็บไซต์ให้บริการพนันออนไลน์ต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละประมาณ 1,000-1,500 เว็บไซต์

“ซิงเกิล เกตเวย์”แก้ได้แต่ถูกต้าน

ด้านนางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด มหาชน ในฐานะนายกสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงดีอีเอส ปอท. และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต มีคณะทำงานร่วมกันเพื่อปิดกั้นเว็บที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว และมีกระบวนการดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ตามคำสั่งศาล ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปิดกั้นไปเป็นจำนวนมาก

“ถามว่าเราสามารถกรองเนื้อหาเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ ลามกอนาจาร ตั้งแต่ประตูทางเข้า (Gateway) ได้หรือไม่ ในทางเทคนิคสามารถทำได้ แต่ก็จะมีคนออกมาต่อต้านเรื่องซิงเกิล เกตเวย์”

จี้แก้กกม.เอาผิดพนันรูปแบบใหม่

ขณะที่นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมายคอมพิวเตอร์ กล่าวถึงกระแสความนิยมเล่นการพนันออนไลน์ว่า ในมุมมองของนักกฎหมายนั้น กฎหมายเกี่ยวกับการพนันที่ใช้อยู่มีความเก่า และล้าสมัยไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย มีบังคับใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2478 ตัวกฎหมายกำหนดสิ่งที่เป็นการพนันด้วยการเล่นพนันแบบเก่า ซึ่งบางอย่างไม่นิยมเล่นแล้ว การกำหนดพื้นที่หรือท้องที่ สถานที่เล่นกำหนดเป็นบ้านหรือโรงเล่นพนัน

ขณะที่ปัจจุบันการพนันออนไลน์เล่นบนเซิร์ฟเวอร์ นอกจากนี้ กฎหมายไทยยังไปกำหนดว่าการพนันแบบไหนอยู่ในบัญชีที่ขออนุญาต การพนันที่กำหนดไว้ ยังเป็นน้ำเต้า ปู ปลา ซึ่งแทบจะไม่มีคนเล่นแล้ว

สำหรับการเล่นพนันปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก นอกจากเล่นบนเซิร์ฟเวอร์ ยังใช้เงินเป็นดิจิทัล คอยล์ การจะไปเก็บพยานหลักฐานทั้ง พ.ร.บ.การพนัน และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาไม่มีบทบัญญัติรองรับให้รวบรวมพยานหลักฐานแบบนี้ได้เลย ทำให้เจ้าพนักงานหาหลักฐานลำบาก ต้องเอาพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์มาปรับใช้ชั่วคราว การแสวงหาพยานหลักฐานค่อนข้างลำบาก

ทางออกคือควรปรับปรุงกฎหมายการพนันเสียใหม่ ให้มีบทบัญญัติครอบคลุมการกระทำความผิด พ.ร.บ.การพนันเดิมให้อำนาจกระทรวงมหาดไทยดูแล ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติน่าจะเข้ามาเป็นเจ้าภาพ กฎหมายการพนันเคยแก้ไขครั้งไปแล้ว แต่เป็นการแก้เพียงบางส่วนเมื่อปี 2556 เมื่อถึงวันนี้ ก็ไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงแล้ว