ครม.เคาะมาตรการจ้างงาน 'เด็กจบใหม่' 2.6 แสนตำแหน่ง 

ครม.เคาะมาตรการจ้างงาน 'เด็กจบใหม่' 2.6 แสนตำแหน่ง 

ครม. รับทราบมาตรการจ้างงานนิสิต นักศึกษา จบใหม่ กว่า 2.6 แสนตำแหน่ง เตรียมจัดงาน Work Expo กระตุ้นการจ้างงานทุกภาคส่วน

วันนี้ (8 กันยายน 2563) เวลา 13.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยว่า วันนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ในพื้นที่เดิม เนื่องจากยังคงสถานการณ์ยังมีความรุนแรง และปรับลดในพื้นที่อ. ไม้แก่น โดยย้ำการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ เฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์ เช่นเดียวกับการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ที่คงอยู่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะพิจารณายกเลิก ปัจจุบันยังคงมีความจำเป็นต้องบูรณาการข้อกฎหมายของหลายหน่วยงาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ทำงานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากกฎหมายของกระทรวงสาธาณสุขครอบคลุมเพียงด้านสุขภาพอย่างเดียว ไม่สามารถใช้ควบคุมชายแดนได้ และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม

นายกรัฐมนตรี เผยคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการในการจ้างงานนิสิต นักศึกษา จบใหม่ประมาณ 260,000 ตำแหน่ง ระยะเวลา 12 เดือน ทั้งระดับปวช. ปวส. และปริญญาตรี รวมทั้งการจ้างงานในภาคส่วนอื่นอีกรวมแล้วประมาณ 1 ล้านตำแหน่ง ซึ่งมีการจัด Work Expo โดยกระทรวงแรงงาน

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ลดค่าครองชีพ ดูแลผู้ประกอบรายย่อยโดยเฉพาะหาบเร่ แผงลอย พ่อค้า แม่ค้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดทำรายละเอียด เพื่อนำเสนอหลักการแก่คณะรัฐมนตรี ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจัดเตรียมระบบในการจ่ายเงินให้มีความพร้อมก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค ในการใช้จ่ายซื้อสินค้ากับร้านค้าปลีกและพ่อค้า แม่ค้าหาบเร่ แผงลอย ได้

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผย คณะรัฐมนตรีอนุมัติการปรับปรุงสหกรณ์ในวงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาให้มีความทันสมัย มีความพร้อมในการดูแลภาคประชาชนด้วย อาทิ ผลผลิตทางการเกษตร พร้อมยังมีการอนุมัติโครงการ Chiang Mai Gastronomy Culture เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมล้านนารูปแบบใหม่ ในวงเงิน 48 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมรายได้เกษตรกร ผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นนำท่องเที่ยว Street Food ซึ่งเชียงใหม่จะเป็นจังหวัดแรกเพื่อเป็นโครงการนำร่อง และจะมีโครงการดังกล่าวในจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป รวมทั้งการดำเนินการของประกันสังคมที่อยู่ระหว่างการดูแลผู้ที่ตกค้างยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ครบ 6 เดือน หรือผู้ที่ติดค้างในการแจ้งบัญชีธนาคาร โดยจะมีการเลื่อนจ่ายไปยังเดือนตุลาคม ประมาณ 50,000 กว่ารายด้วย