ผวาหมูตายพื้นที่ลำพูน "ปศุสัตว์"เข้าพื้นที่เร่งคุมสถานการณ์

ผวาหมูตายพื้นที่ลำพูน "ปศุสัตว์"เข้าพื้นที่เร่งคุมสถานการณ์

ชาวลำพูน ผวาหมูล้มตาย เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้าพื้นที่สั่งฆ่าตัดตอน แนะงดบริโภคเมนูหมูช่วงนี้ก่อน ขณะ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ห่วงข่าวกระหึ่มโซเชียวแค่สร้างความแตกตื่น ชี้โรคพีอาร์อาร์เอสยังคุมได้

รายงานข่าวจากพื้นที่จ. ลำพูน แจ้งว่า ขณะนี้ผู้บริโภคต่างผวไม่กล้ารับประทานเนื้อหมู เนื่องจากในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีหมูล้มตายโดยมีโรคระบาดเริ่มมาจากเขต อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เข้ามาในพื้นที่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน 

โดยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เข้ามาฆ่าหมูในพื้นที่ที่ระบาดทั้งหมดพร้อมจ่ายค่าชดเชย 75%ของมูลค่าหมูที่ตาย อย่างไรก็ตาม ในฟาร์มขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านพบว่ามีการตายเช่นกัน แต่เจ้าหน้ากรมปศุสัตว์ไม่ได้เข้าทำลายทั้งหมด และมีการจำหน่ายให้พ่อค้าเพื่อนำมาชำแหละจำหน่ายตามแผงขายปลีก

นอกจากนี้ยังมีการขนหมูข้ามเขตจากจังหวัดอื่นมาจำหน่ายโดยอ้างว่าเป็นหมูที่ไม่มีการระบาดของโรค จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคต่างผวาและแจ้งเตือนตามระบบโซเชียล 

ก่อนหน้านี้นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีการแชร์ข่าวทางสื่อโซเชียล เฟสบุค(Facebook ) ว่ามีโรคระบาดสุกรในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดตาก ให้ประชาชนงดบริโภคเนื้อสุกร นั้น ได้สั่งการให้

สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแม่ฮ่องสอน และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตาก ลงพื้นที่สำรวจข้อเท็จจริง พบว่าข่าวดังกล่าวบิดเบือนจากความจริง


ทั้งนี้ในพื้นที่ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พบสุกรป่วยตายผิดปกติ จำนวน 5 ตัว จากการวิเคราะห์ข้อมูลความเสี่ยงทางระบาดวิทยา เพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำลายสุกรของเกษตรกร ในคอกใกล้เคียง เพื่อลดความเสี่ยงของโรคระบาด พบว่าเป็นโรคพีอาร์อาร์เอสซึ่ง โรคพีอาร์อาร์เอส เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง เป็นโรคระบาดของสุกร ไม่ใช่โรคที่ติดต่อสู่คน ดังนั้นในพื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัด อาทิ ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากการเฝ้าระวังโรคเชิงรุก ยังไม่พบสุกรป่วยตายผิดปกติ


“ในโซเซียล มีการลงรูปภาพและรายละเอียดของสุกรตายจำนวนมาก อาจสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนทั่วไป เบื้องต้นอาจเป็นขบวนการทำให้คนตื่นกลัว และส่งผลให้ราคาสุกรลดลง”