สมการลงทุน 'นาฬิกาหรู' หลีกหนีคำว่า 'ขาดทุน'

สมการลงทุน 'นาฬิกาหรู' หลีกหนีคำว่า 'ขาดทุน'

สะสมของที่รักเพื่อผลตอบแทนระยะยาว จากความรัก และความหลงใหลในบางสิ่งบางอย่างหรือสิ่งของ ทำให้เกิดความสุขทางใจให้กับบุคคลนั้นๆ ขณะเดียวกันยังสามารถสร้างความสุขทางความมั่งคั่ง ในอนาคตไปด้วยกัน

หากเรียนรู้และศึกษาจนเข้าใจอย่างแท้จริง ข้อพิสูจน์ข้อความข้างต้นน่าจะเกิดขึ้นกับหลายบุคคลที่มีของรักของหวงหรือของสะสม ที่เปี่ยมไปด้วยมูลค่าทางจิตใจ จนสามารถกลายเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนที่สามารถเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้ด้วย เรียกง่ายๆ ว่า มีความสุขของสะสมและมั่งคั่งไปพร้อมกัน หรือ ‘Alternative Investment

กฤษณ์ จันทโนทก หนุ่มนักการเงินที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารตัวแทนประกันชีวิต บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย จำกัด เป็นนักสะสมตัวยงและซึมซับกับสินทรัพย์ประเภทนาฬิกามาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ด้วยครอบครัวมีการสะสมอยู่แล้วทำให้ชื่นชอบไปโดยปริยาย

จนมาสังเกตตัวเองพบว่ามีนาฬิกาที่สะสมและจริงจังตั้งแต่อายุ 15 ปี ซึ่งช่วงสมัยเริ่มซื้อสะสมตามสมัยนิยมช่วงวัยรุ่น เช่น วอตช์ คาสิโอ เริ่มขยับมูลค่ามาเป็นแท็ค ฮอยเออร์ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญ คือการก้าวเข้าสู่การเป็น ‘พ่อค้า’ นาฬิกาอย่างจริงจังด้วยนาฬิกาเรือนแรก โรเล็กซ์ รุ่น Air-King และได้กำไรชัดเจน

“เริ่มจริงจังการเป็นพ่อค้านาฬิกามีแหล่งไม่กี่แห่งในสมัยนั้นคือ เยาวราช จตุจักร บ้าง ซึ่งเริ่มแรกลงทุนไม่ได้เยอะมาก เพราะอาศัย จับเสือมือเปล่า แบบตัดค่าขายกินหัวคิว ด้วยเป็นคนชื่นชอบนาฬิกาอยู่เลยตระเวนไปตามแหล่งต่างๆ เลยทำให้รู้จักคนเยอะและได้รับความเมตตา จนทำให้กลายเป็นจุดเริ่มต้น”

ฟังแบบนี้ดูเหมือนง่ายนั้นใช่สำหรับใครที่อยากจะซื้อเพื่อสะสม ซื้อแล้วเก็บไว้ดูไม่ขายต่อ แต่ถ้าใครอยากจะทำเป็นอาชีพ เป็นพ่อค้าขายนาฬิกาจะต้องรู้ละเอียดมาก จำได้ทุกรุ่น เข้าใจแต่ละแบรนด์ให้ได้ว่ามีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร และต้องรู้จักตลาดดีว่ามีความต้องการแบบไหนเพื่อจะได้ซื้อถูก และนำมาขายแพงได้ หากใครจะเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือก ยิ่งต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งขึ้นไปอีกเพื่อไม่ให้กลายเป็นเหยื่อของพ่อค้ารู้ถึงระบบกลไก แบรนด์เจ้าของมีเอกลักษณ์อย่างไร สตอรี่รุ่นนาฬิกาที่ตลาดให้ความสนใจ มีที่มาที่ไปอย่างไร

เมื่อจะลงทุนนาฬิกาหรูมี เรื่องความสวยงาม เอกลักษณ์ รูปแบบเป็นที่ยอมรับในตลาดหรือไม่ ประเภทนาฬิกามีความซับซ้อนแค่ไหน ผู้ผลิตเป็นใคร หากยากหรือเปล่า และ การผลิตมีคุณภาพแค่ไหนสิ่งเหล่านี้จะตอบได้ว่า ราคาที่สูงมาพร้อมกับความคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ เกณฑ์ที่จะใช้ศึกษาคือการจำแนกประเภทนาฬิกาหรูก่อนว่าเป็นประเภทไหน มีทั้งนาฬิกาสปอร์ต นาฬิกาที่เข้ากับทุกชุด (Dress) นาฬิกาที่เน้นการออกแบบดีไซน์ จากนั้นมาดูความซับซ้อนของระบบกลไก ยิ่งซับซ้อนมากราคาจะสูงตามไปด้วย

เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองชอบประเภทไหนแบบไหน หลังจากนั้นจึงมาสร้างคอลเลคชั่นของตัวเอง มีหลัก 4 ข้อที่ใช้เป็นเกณฑ์ได้ไล่เป็นข้อๆ 1.แบรนด์ 2.ประเภท และรูปแบบ 3.ความซับซ้อนระบบกลไก และ4.ช่วงเวลาและยุคสมัยที่เป็นที่นิยม “ช่วงเวลาที่นักลงทุนหรือนักสะสมนาฬิกาให้ความสนใจ มี 2 ช่วงด้วยกันช่วงแรกเรียกว่า อาร์ตนูโว คือปี 1910-1920 ยุคคลาสสิกสไตล์แกสบี้ แนวคุณผู้หญิงชื่นชอบ และยุคปี 1960-1970 ยุคทองของนาฬิกาเลยก็ว่าได้ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้านในภาคสังคม เศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์ มีมหกรรมกีฬาที่ได้รับความสนใจขึ้นมากมาย ทำให้นาฬิกาที่ออกมา 2ช่วงนี้มีราคาแพง เนื่องจากมีแต่คนตามสะสม”


เมื่อได้รับความนิยมมีการตามซื้อสะสมทเกิดตลาดการซื้อขายระดับโลกซึ่งปัจจุบันนาฬิกาหรูที่ได้รับความนิยมมาตั้งปี 2558 คือยุควินเทจ จนทำให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะไม่มีผลิตแบบนั้นอีกแล้วในยุคนี้ ราคาจึงปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบันใครอยากจะสะสมเพื่อเป็นนักลงทุนนาฬิกาหรูมีสมการลงทุนที่ควรศึกษาเอาไว้ ด้วยการแบ่งเป็นแต่ละกรุ๊ป คือ กรุ๊ปมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ทำให้มีมูลค่าสูงโอกาสจะขาดทุนจะน้อยลงต่อมากรุ๊ปประเภทและความซับซ้อนของนาฬิกา

ดังนั้นถ้าซื้อลงทุนแบรนด์นาฬิกามูลค่าสูงในกลุ่มประเภทที่มีความซับซ้อนสภาพคล่องต่ำ กำไรมีโอกาสกลาง เพราะตลาดมีผู้เล่นจำนวนจำกัดที่จะเล่นนาฬิกาประเภทนี้ หรือแบรนด์นาฬิกามูลค่าสูงเป็นประเภทสปอร์ตที่มีความนิยมสภาพคล่องสูง กำไรมีโอกาสน้อยเพราะตลาดมีผู้เล่นจำนวนมากเน้นเปลี่ยนมือเร็ว ส่วนซื้อลงทุนแบรนด์นาฬิกามูลค่าต่ำ เป็นประเภทใส่กับทุกโอกาส สภาพคล่องต่ำ และโอกาสขาดทุนสูง อย่างนี้เป็นต้น

เรื่องราคาซื้อขายเป็นเรื่องที่ไม่ตายตัวเพราะใครที่มีนาฬิกาหายากจริงตลาดนิยม มีราคา time value เงินเฟ้อมาคำนวณ บวกจากราคาจริง 20-40% เลยยิ่งทำให้การลงทุนกันสินทรัพย์ทุกอย่างไม่เพียงแค่นาฬิกาต้องรักก่อนเพื่อจะได้ศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้กลายเป็นกับดักเงินลงทุนเพราะหากไม่ศึกษานอกจากกลายเป็นเหยื่อของคนอื่น และยังขาดทุนถึง 30-60% ด้วยเหมือนกันขึ้นอยู่กับรุ่น และความแข็งแกร่งของแบรนด์