'จับกัง1' ร่วมประชุมใหญ่สามัญฯ หนุนนายจ้าง ลูกจ้าง รวมพลังสร้างชาติ

'จับกัง1' ร่วมประชุมใหญ่สามัญฯ หนุนนายจ้าง ลูกจ้าง รวมพลังสร้างชาติ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมการประชุมใหญ่สามัญประจำปี สหภาพแรงงานรถยนต์มิตซูบิชิ แห่งประเทศไทยและสหภาพแรงงานเด็นโซ่ ประเทศไทย เน้นย้ำ เสริมสร้างการมีส่วนร่วมทุกฝ่ายตามนโยบาย ทำให้สังคมแรงงานเกิดบรรยากาศที่ดีในการลงทุน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมการประชุมใหญ่สามัญประจำปี สหภาพแรงงานรถยนต์มิตซูบิชิ แห่งประเทศไทยและสหภาพแรงงานเด็นโซ่ ประเทศไทย เน้นย้ำ เสริมสร้างการมีส่วนร่วมทุกฝ่ายตามนโยบาย รวมไทยสร้างชาติ ส่งเสริม สนับสนุนให้นายจ้าง ลูกจ้างสมานฉันท์ปรองดอง ทำให้สังคมแรงงานเกิดบรรยากาศที่ดีในการลงทุน จากนั้นปิดการสัมมนา โครงการ “ผู้บริโภค ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” ปลูกฝังให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงสิทธิของตนเองในการซื้อสินค้าหรือบริการเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในโอกาสได้ไปร่วมงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี สหภาพแรงงานรถยนต์มิตซูบิชิ แห่งประเทศไทย ณ สนามกีฬาเทศบาลตำบลตะเคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และกล่าวร่วมงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปีสหภาพแรงงานเด็นโซ่ ประเทศไทย ณ อาคารศาลาประชาคม เทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี โดยมี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบก่อให้เกิดปัญหาด้านแรงงานสัมพันธ์ที่ขยายวงกว้าง

รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาและการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลายลง โดยนำนโยบาย “รวมไทย สร้างชาติ” เข้ามาดำเนินการ มีเป้าหมายที่จะผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันวางแผน เพื่อกำหนดอนาคตประเทศไทย ซึ่งนับจากนี้ไป

กระทรวงแรงงานต้องดำเนินการบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ภายใต้ศูนย์อำนวยการแรงงานแห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์ขับเคลื่อนด้านแรงงานทุกมิติ เพื่อร่วมมีบทบาทในการช่วยกันกำหนดอนาคตของประเทศ โดยเฉพาะการเยียวยาสถานประกอบกิจการและผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบต้องว่างงานในช่วงที่ผ่านมา ได้กลับสู่ระบบการจ้างงาน ตลอดจนการสร้างความเข้มแข็งให้สถานประกอบกิจการต่าง ๆ สามารถเผชิญวิกฤตฟันฝ่าอุปสรรค ให้องค์กรสามารถแข่งขันได้ในสภาวะปัจจุบัน พร้อมทั้งเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด โดยยังคงสภาพการจ้างงาน และสภาพการจ้างเดิมไว้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ใช้แรงงาน

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติ ที่ได้มาร่วมงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ของทั้งสองสหภาพแรงงานในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการแสวงหาและคุ้มครองผลประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง และระหว่างลูกจ้างด้วยกัน ดังนั้น การประชุมใหญ่สามัญประจำปีในครั้งนี้ จึงเป็นกระบวนการหนึ่งในการบริหารงานตามหลักประชาธิปไตย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สมาชิกได้มีส่วนร่วมในการบริหารงานและรับผิดชอบร่วมกัน อันเป็นการพิสูจน์ให้องค์กรภายนอกได้เห็นถึงบทบาทที่เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อนายจ้างให้เกิดการยอมรับ และถือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สำคัญ อันจะส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศ จึงถือเป็นองค์การแรงงานแห่งหนึ่งที่น่าชื่นชมยกย่องเป็นแบบอย่างที่ดีแก่องค์กรแรงงานอื่น อันจะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของสมาชิก และส่งต่อความสัมพันธ์อันดีให้ดำรงสืบไป

"กระทรวงแรงงานจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประชุมของสมาชิกตามวาระการประชุมแล้ว จะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน ให้สังคมแรงงานมีความสมานฉันท์ปรองดอง อันก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการลงทุน และเพื่อเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงขอให้สหภาพแรงงานและสมาชิกร่วมน้อมนำ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้เกิดภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง เพื่อให้สมาชิกมีการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล รอบคอบระมัดระวัง และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถคิดตัดสินใจบนพื้นฐานของความพอประมาณ ทั้งในการดำเนินชีวิตและบริหารจัดการองค์กรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ อันจะนำไปสู่ภูมิคุ้มกันที่ดีแก่ลูกจ้างและสมาชิก ก่อให้เกิดความสงบสันติสุขในวงการแรงงานตลอดไป" นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

จากนั้น รมว.แรงงาน ยังได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีกล่าวปิดการสัมมนา โครงการ “ผู้บริโภค ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” ณ อาคารอเนกประสงค์ เทศบาลเมืองพนัสนิคม อําเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการปลูกฝังให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงสิทธิของตน สามารถนําความรู้ต่าง ๆ ไปใช้ในการปกป้องสิทธิของตนเองในการซื้อสินค้าหรือบริการได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตนเองไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจได้อีกด้วย