แรงเทขายหุ้นเทคโนโลยีฉุดดาวโจนส์ร่วง

แรงเทขายหุ้นเทคโนโลยีฉุดดาวโจนส์ร่วง

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (4ก.ย.)พลิกกลับมาเคลื่อนไหวในแดนลบ จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาด รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 159.42 จุดหรือ 0.6% ปิดที่ 28,133.31 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 ร่วงลง 0.8% ปิดที่ 3,426.96 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 1.3% ปิดที่ 11,313.13 จุด

ภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ยังคงถูกขายออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นแอ๊ปเปิ้ลร่วง 4.9% หลังดิ่งลง 8% วานนี้ หุ้นเฟซบุ๊ค เน็ตฟลิกซ์ และแอมะซอน ต่างร่วงลงกว่า 2.5% ส่วนหุ้นเทสล่าร่วง 2.4% หลังดิ่งลง 9% วานนี้ ด้านหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยเจพีมอร์แกน เชส และ แบงก์ ออฟ อเมริกา บวกกว่า 2.5%

สำนักงานสถิติแรงงาน กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.255 ล้านตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่หยุดชะงักไปจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.ชะลอตัวลงจากที่เพิ่มขึ้น 1.73 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. และลดลงอย่างมากจากที่เพิ่มขึ้น 4.79 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.ส่วนอัตราการว่างงานเดือนส.ค. ลดลงสู่ระดับ 8.4% จากระดับ 10.2% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.8%

ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่อัตราว่างงานของสหรัฐอยู่ต่ำกว่าระดับ 10% อย่างไรก็ดี อัตราว่างงานก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับสถิติในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด โดยอัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 3.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี