สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 31 สิงหาคม - 3 กันยายน 2563

สรุปภาวะ"ตลาดเงินตลาดทุน"รายสัปดาห์ วันที่ 31 สิงหาคม - 3 กันยายน 2563

เงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่หุ้นไทยปรับตัวลงตามแรงขายทำกำไรก่อนปิดหยุดยาว

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ โดยแตะระดับ 31.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนวันหยุดยาวของตลาดการเงินในประเทศ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทสอดคล้องกับสัญญาณขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวกในระหว่างสัปดาห์จากข้อมูล PMI/ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ตลาดยังคงรอติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และประเด็นการเมืองในประเทศของไทยอย่างใกล้ชิด

- ในวันพฤหัสบดี (3 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.45 เทียบกับระดับ 31.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (28 ส.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (7-11 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.10-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ  โดยปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ปัจจัยทางการเมืองในประเทศ สถานการณ์โควิด-19 ในไทยและต่างประเทศ และสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,311.95 จุด ลดลง 0.86% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 49,165.00 ล้านบาท ลดลง 8.59% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.70% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 312.95 จุด      

- หุ้นไทยปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์ ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน หลัง MSCI ปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยซึ่งมีผลในวันที่ 31 ส.ค. ประกอบกับตลาดมีความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ ก่อนจะดีดตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ ขานรับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะโครงการกระตุ้นการใช้จ่าย อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ลดช่วงบวกลงในช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางสัญญาณระมัดระวังก่อนวันหยุดยาว ประกอบกับตลาดยังคงติดตามสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน และปัจจัยการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (7-11 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,300 และ 1,285 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,325 และ 1,335 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นการเมืองในประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มเติม สถานการณ์โควิด-19 และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางยุโรป จีดีพีไตรมาส 2/63 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน  และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีน