Have Fund : 'สะสมเงิน' ควบ 'คุ้มครองสุขภาพ'

Have Fund : 'สะสมเงิน' ควบ 'คุ้มครองสุขภาพ'

ปัจจุบันตลาดการลงทุนยังคงมีความผันผวน ทำให้รูปแบบการลงทุน “แบบกระจายพอร์ต” เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างในภาวะเช่นนี้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว

ขณะเดียวกันเทรนด์รักสุขภาพและบริหารค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลที่สูงขึ้นทุกวัน ยังคงเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการอย่างมากในทุกช่วงชีวิต และยิ่งปัจจุบันท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งต้องเตรียมความพร้อมกันเอาไว้

ดั้งนั้น จึงได้มีกองทุนที่สร้างทางเลือกในสินทรัพย์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งการเงินและสุขภาพไปด้วยกันเป็นครั้งแรกของตลาด และเพิ่งเปิดขาย IPO เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านนี้ คือ "กองทุนเปิดกรุงไทย ยกกำลังสุข (ภาพ)หรือ KTHH" ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

"กองทุน KTHH" มีผู้จัดการกองทุนบริหารเงินลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดีและครอบคลุมค่าใช้จ่ายกองทุนและค่าใช้จ่ายประกัน โดยผลตอบแทนย้อนหลังเสมือนลงทุนจริงของโมเดลตามกรอบลงทุนจริงหลังหักค่าใช่จ่ายทั้งหมดแล้วเฉลี่ยที่ 6% ต่อปี โดยโมเดลตามกรอบการลงทุนใช้ข้อมูล Morningstar ณ พ.ค. 2552 - พ.ค.2563) มีผลตอบแทนจนถึงปัจจุบัน (YTD) อยู่ที่ -6.68%, ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -2.21%, ย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ -0.35%, ย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 0.51% และ ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ 6.02% ต่อปี

ด้วยจุดเด่นกองทุน KTHH ที่เป็นกองทุนรวมผสม กองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds มีกลยุทธ์ในการบริหารแบบเชิงรุก (Active Management) กระจายการลงทุนในทั้งในและต่างประเทศ อาทิ หน่วย CIS กองทุนรวมอีทีเอฟ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน(กองทุนปลายทาง) เป็นต้น ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป สัดส่วนพอร์ตลงทุน มีหุ้นต่างประเทศ 30% หุ้นไทย 30% พันธบัตรรัฐบาล อายุ 1-3 ปี 20% กองรีท และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 5% กองทุนอีทีเอฟ 10% ทองคำ 5%

ทางด้านสิทธิประโยชย์ความคุ้มครอง สามารถปรับระดับความคุ้มครองประกันสุขภาพตามมูลค่าเงินลงลงทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามเงื่อนไขกำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน โดยไม่ต้องกังวลใจว่า NAV จะเพิ่มหรือลง ด้วยแผนความคุ้มครองครอบคลุมถึง 6 แผน ขณะเดียวกันเป็นทำประกันสุขภาพแบบประกันกลุ่ม ค่าเบี้ยถูกกว่าและความเสี่ยงของการถูกปรับขึ้นเบี้ยหรือปฏิเสธต่างๆเป็นไปได้ยากหรือน้อยกว่าเมื่อเทียบกับประกันสุขภาพรายเดี่ยว

ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรก คือ 50,000 บาท และสามารถซื้อได้ 1,000 บาท ในครั้งถัดไป ดังนั้นกองทุน KTHH จึงเหมาะกับผู้ลงทุนทุกกลุ่มที่ต้องการหาตัวเสริมการลงทุนแบบกระจายสินทรัพย์หลากหลาย โดยจะต้องสามารถรับความเสี่ยงระดับปานกลางถึงสูงได้ และรักสุขภาพ เช่น คนที่ต้องลงทุนระยะยาว 3 ปีขึ้นไป มีเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ด้วยการทยอยลงทุนแบบ DCA และระหว่างทางยังได้คุ้มครองสุขภาพเพิ่มขึ้นตามเงินลงทุน

อย่างไรก็ตามกองทุน KTHH มีข้อควรระวังคือ การซื้อขายหน่วยเพื่อความคุ้มครอง สำหรับการซื้อสามารถลงทุนได้ทุกวัน ปิดยอดทุกวันที่ 21 ของทุกเดือน เริ่มผลความคุ้มครองทุกวันที่ 1 ของเดือนถัดไป ส่วนขายคืน มีเพียงเดือนละ1รอบ ทุกวันที่16-20ของทุกเดือน

รวมถึงสิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง ต้องดูเงื่อนไขให้ดี เช่น ถ้ามีรอจนมีเงินมากเมื่ออายุมากขึ้นแล้วค่อยมาลงทุน บริษัทประกันสามารถปฏิเสธโรคที่เป็นมาก่อนหน้าได้ หรือโรคเรื้อรังได้ และผู้ลงทุนจะต้องมีอายุระหว่าง 15-65 ปีบริบูรณ์ และเป็นบุคคลที่บริษัทประกันถือว่ามีสุขภาพแข็งแรง ณ วันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ ดังนั้น “อย่าลงทุน” หากไม่เข้าใจลักษณะและความเสี่ยงของกองทุนรวมนี้ดีพอ

สำหรับค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจริงจากกองทุนกองทุน KTHH แบ่งเป็นค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 1.07 % ต่อปี และค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนสูงสุดไม่เกิน8.56% ต่อปี ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุน อยู่ที่ 10.0451 บาทต่อหน่วย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 122.75 ล้านบาท(ณ 27 ส.ค. 2563 )นโยบายของกองทุนมีการพิจารณาจ่ายปันผล ทุกไตรมาส หรือไม่เกินปีละ4ครั้ง

อย่างไรก็ดี กองทุนนี้เงื่อนไขของประกันเพิ่มเติมเข้ามา ผู้ลงทุนต้องศึกษากองทุนนี้ให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน หากเข้าใจดีแล้วแน่นอนว่า ด้วยโมเดลของกลทุนนี้ สามารถนำมาใช้เป็น“พอร์ตหลัก” ลงทุนก็ดี ความคุ้มครองสุขภาพก็ได้พร้อมกันในกองเดียว