ขึ้นต่อ

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ แนวต้าน 1323 / 1330 จุด แนวรับ 1305 / 1300 จุด แต่แนะนำ ขายทำกำไร โดยมีจุดซื้อคืนที่ 1300 จุด ปัจจัยบวกวันนี้ คือ การคาดว่ารายงานภาคบริการเดือน ส.ค. ของจีน ญี่ปุ่น อียู สหรัฐฯ เติบโตดีต่อเนื่อง และรัฐบาลไทยเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ส่วนปัจจัยลบ คือ การขายทำกำไรก่อนวันหยุดยาว 4 วัน เพื่อลดความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นโลก

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

      1) จับตา รายงานภาคบริการเดือน ส.ค. ของ จีน ญี่ปุ่น อียู สหรัฐฯ คาดปรับสูงขึ้นตามภาคการผลิต (+กลุ่มค้าปลีก)

      2) ศบศ. เห็นชอบ 3 มาตรการ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 4Q20E (+กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ไฟแนนซ์ ขนส่ง)

      3) ผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD มีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.27 จุด นำโดย RATCH TPIPP TIP

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ รายงานภาคบริการเดือน ส.ค. ของญี่ปุ่น (Jibun Bank) คาด 45 (Vs เดือน ก.ค. 45.4) จีน (Caixin) คาด 53.7 (Vs เดือน ก.ค. 54.1) EU (Markit) คาด 50.1 (Vs เดือน ก.ค. 54.7) USA (Markit) คาด 54.8 (Vs เดือน ก.ค. 50) USA (ISM) คาด 57 (Vs เดือน ก.ค. 58.1) / USA-weekly initial jobless claims คาด 9.5 แสนราย (Vs สัปดาห์ก่อน 1.006 ล้านราย) / ไทย-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. คาด 51 (Vs เดือน ก.ค. 50.1) Global market Summary

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยปรับสูงขึ้นในชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายมาปิดตลาดที่ 1315.88 จุด +10.31 จุด หรือ +0.79% วอลุ่มซื้อขายเบาบาง 4.37 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มธุรกิจการเกษตร +4.85% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +3.77% วัสดุก่อสร้าง +2.55% โดยหุ้นบวก >4% STA NER DETLA WICE SINGER NOBLE AU TACC AI AUCT IIG TRUBB JCK ส่วนหุ้นลบ >4% MORE COMAN PIMO

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ DJ +1.59% S&P500 +1.54% Nasdaq +0.98% จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค นำโดย Coca-Cola +4.2% Pepsi +2.95% กลุ่มเทคโนโลยี FB +2.39% แม้จะผิดหวังกับตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่อ่อนแอ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวกแรง หลังร่วง 4 วัน นำโดย DAX +2.07% CAC40 +1.9% นำขึ้นโดยกลุ่มเคมีภัณฑ์ หลังจากรายงานข้อมูลภาคการผลิตที่ดี และความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากอีซีบี

- น้ำมันดิบและทองคำปิดร่วง: ตลาดน้ำมันดิบและทองคำกลับมาปิดลบจากการแข็งค่าของ USD ส่งผล Brent -USD1.15 ปิดที่ USD44.43/บาร์เรล WTI -USD1.25 ปิดUSD41.51/บาร์เรล จากรายงานการผลิตน้ำมันดิบนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกกลับมา ฟื้นตัวเร็ว (การผลิตน้ำมันดิบลดลงเหลือเพียง 19.7% จากสัปดาห์ก่อนลดลง 84%) และทองคำร่วง -USD34.20 ปิดที่ USD1,944.70/ออนซ์

ประเด็นสำคัญ

+ ไทย: ศบศ. มีมติเห็นชอบ 3 มาตรการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายประชาชน มาตรการส่งเสริมการจ้างงาน คาดส่งผลบวกต่อ 4Q20E GDP และกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร กลุ่มอิงการบริโภค ขนส่ง ไฟแนนซ์

+ ราคายาง: ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพารา 3 แห่ง ของกยท. ปิดที่ระดับสูงสุดรอบ 3 ปี ที่ 60.05 บาท/กก. (Vs 30 ก.ค. อยู่ที่ 45.39 บาท) เนื่องจากผลกระทบ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตยางขาดแคลนแรงงานกรีดยาง ขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้น (+NER TRUBB STA)

+/- FED Beige Book: รายงานกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กระเตื้องขึ้นเพียงเล็กน้อยและยังคงเผชิญความไม่แน่นอน จากการระบาดของ COVID-19 อันอาจจะส่งผลต่อกิจกรรมทางการบริโภคและธุรกิจตลาดแรงงานดีขึ้นในเกือบทุกพื้นที่ แต่ยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะภาคบริการ

- USA: นางเปโลซี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต เผยได้สนทนากับรมว. คลัง สตีเวน มนูชิน จากพรรครีพับลิกัน วานนี้ แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

- USA: ADP employment Change เดือน ส.ค. ต่ำกว่าคาด และลดลงมากเป็น 4.28 แสนราย (Vs คาด 1.17 ล้านตำแหน่ง และเดือน ก.ค. ปรับขึ้นเป็น 2.12 แสนราย จากเดิม 1.67 แสนราย)

แนะนำ Short Against Port (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: MINT M JWD

หุ้นมีข่าวบวกวันนี้: JWD WICE HANA DELTA MINT STA TRUBB NER

Derivatives: ปิดสถานะ Long S50U20P850 ออกไปก่อนช่วงวันหยุดยาว (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)