ไทยเพิ่มช่องทางเข้าถึง ‘วัคซีนโควิด-19’ ป้องกันมหาอำนาจผูกขาด

ไทยเพิ่มช่องทางเข้าถึง ‘วัคซีนโควิด-19’ ป้องกันมหาอำนาจผูกขาด

สธ.เผยไทยแสวงหาทางเข้าถึงวัคซีนโควิด-19เพิ่ม ตัดสินใจร่วมโครงการโคแวกซ์- องค์กรวัคซีนกาวีผ่านฮู สนับสนุนเงินวิจัย หวัง10 บริษัททำสำเร็จคนไทยได้ใช้ก่อน สกัดประเทศมหาอำนาจผูกขาดวัคซีน

       เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19ว่า ในที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงสธ.ได้มีการหารือในภาพรวมของการจัดการกรณีโรคโควิด-19 โดยมีการหารือกรณีการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้คนไทยเข้าถึงได้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้มีการดำเนินการแล้ว 2 แนวทาง คือ การวศึกษาวิจัยพัฒนาวัคซีนภายในประเทศซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมาก และการร่วมพัฒนาและรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

        อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้มีการแสวงหาแนวทางเพิ่มเติม ด้วยการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการสร้างการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก หรือโครงการโคแวกซ์ (Covax) เป็นความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกหรือฮู(WHO)และพันธมิตรความร่วมมือ เพื่อนวัตกรรมเตรียมความพร้อมสำหรับโรคระบาด (The Coaltion for Epidemic Preparedness Innovations) และองค์กรวัคซีนกาวี (Gavi) ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้น เพื่อช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาเข้าถึงวัคซีน ผ่านองค์การอนามัยโลก

      “โครงการนี้ตั้งขึ้นเป็นการช่วยประเทศกำลังพัฒนาให้เข้าถึงวัคซีน มิฉะนั้นหากมีวัคซีนเกิดขึ้นก็จะผูกขาดอยู่เฉพาะในประเทศพัฒนาแล้วหรือร่ำรวบเท่านั้น โดยขณะนี้มีอยู่ 10 บริษัทที่มีการพัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด-19ภายใต้โครงการนี้ การที่ประเทศไทยตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ ด้วยการสนับสนุนงบประมาณไปยังองค์การอนามัยโลกนั้น จะทำให้หากบริษัทใดพัฒนาได้สำเร็จ ประเทศไทยก็จะเข้าถึงวัคซีนเป็นประเทศแรกๆด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดความร่วมมือและงบประมาณที่ประเทศไทยจะสนับสนุน คาดว่าจะลงนามได้ภายในกลางเดือนกันยายนนี้”พญ.พรรณประภากล่าว