'ไมค์ ระยอง - อานนท์' ลุ้นศาลถอนประกัน พร้อมเดินหน้าต่อแม้ต้องติดคุก

'ไมค์ ระยอง - อานนท์' ลุ้นศาลถอนประกัน พร้อมเดินหน้าต่อแม้ต้องติดคุก

"ไมค์ ระยอง - ทนายอานนท์" ถึงศาลอาญาฟังคำไต่สวนถอนประกันหรือไม่ ยืนยัน เชื่อในมวลชน พร้อมเดินหน้าต่อแม้ต้องติดคุก

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 63 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้อง พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว นายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย 2 ผู้ต้องหาในคดียุยงปลุกปั่น ตามมาตรา 116, กฎหมายจราจรและอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง กรณีปราศรัยเวทีเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ซึ่งคดีดังกล่าวตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ควบคุมตัวทั้ง 2 คนตามหมายจับ และขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ก่อนที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล 2 คน ใช้ตำแหน่ง ส.ส.ยื่นขอปล่อยชั่วคราวและศาลให้ประกันตัวไป ด้วยการตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท โดยไม่ต้องมีหลักประกัน แต่มีเงื่อนไขห้ามกระทำการในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหาในคดีอีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน โดยหากทั้งคู่ถูกถอนประกันอาจถูกคุมตัวเข้าเรือนจำทันที

นายภาณุพงศ์ ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงกรณีศาลอาญานัดไต่สวนวันนี้ว่า เป็นเหตุอันสืบเนื่องมาจากการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ส่วนเหตุที่โดนถอนประกันมาจากการขึ้นปราศรัยเวทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนพบว่ามีข้อเท็จจริงหลายประการซึ่งไม่ตรงตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง โดยวันนี้จะมีการแถลงต่อศาลฯ ระหว่างข้อแตกต่างที่ไม่เป็นการผิดเงื่อนไข

ส่วนศาลจะเห็นพ้องกับพนักงานสอบสวนหรือไม่นั้นก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ตนยืนยันความพร้อมในการที่จะสู้อย่างถึงที่สุด เพราะถึงแม้จะโดนจำกัดเสรีภาพ แต่ก็เชื่อมั่นในพลังของมวลชน ที่สามารถขับเคลื่อนเรียกร้องประชาธิปไตยทั้ง 3 ข้อหลัก รวมถึง 10 ข้อ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่ตนไม่จำเป็นต้องกังวล ซึ่งการแสดงออกนี้เป็นไปตามหลักสิทธิเสรีภาพสากล ไม่ใช่การกระทำความผิด เพราะการเห็นต่างนั้นไม่ใช่อาชญากร

ด้าน นายอานนท์ ให้สัมภาษณ์ก่อนฟังการพิจารณาของศาลว่า มีความมั่นใจในความหมายที่ตนเป็นนักกฎหมายว่า ศาลจะให้ความยุติธรรม เพราะเป็นเรื่องที่ชัดเจนแล้วว่าตอนนี้ฝ่ายบริหาร ใช้อำนาจกฎหมายแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม คือขอให้สั่งขังผู้ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้ไปแก้ไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก ซึ่งตนเตรียมพยานหลักฐานมานำสืบอย่างครบถ้วนทุกเรื่องที่ถูกกล่าวหา แต่ก็อยู่ที่ว่า ศาลจะรับฟังฝ่ายตำรวจหรือฝ่ายผู้ชุมนุม และการชุมนุมเปิดเผยมีหลักฐานบันทึกภาพอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ตนจึงไม่ไม่กังวล แต่ถ้ามีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นคือตนกับ ไมค์ ระยอง ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็ถือว่าเป็นใบเสร็จของกระบวนการอย่างครบถ้วน เพราะพวกเราต่อสู้ถึงที่สุดแล้ว และเชื่อว่า การขังพวกเราไม่มีประโยชน์เท่ากับปล่อยให้พวกเราออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้น

นายอานนท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า คิดว่าเราเดินทางมาไกลมาก ไกลกว่าสิ่งที่เราเคยเดินมาและเป็นจุดที่เราไม่เคยเดินมาด้วย อยากให้ทุกคนเดินกันต่อและเดินด้วยความสุข เพราะว่าพวกเราเดินทางมาไกลมากและเพื่อนระหว่างทางเจ็บปวดล้มตายกันไปหลายคน แต่จะต้องเดินทางกันต่อไปแม้ว่าวันนี้อาจมีการสละบางคนบางชีวิตไว้ ก็ให้เป็นต้นทุนในการเดินต่อ เพราะเส้นชัยข้างหน้ารออยู่ไม่ไกล

สำหรับบรรยากาศ บริเวณหน้าศาลอาญา มีมาตรการ รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แม้ว่าช่วงเช้าจะยังไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาให้กำลังใจ นายอานนท์ และ นายภานุพงศ์ โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุด บริเวณทางเข้าออก พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นแบ่งโซน

นอกจากนี้ยังมีการจำกัดบุคคลเข้าออกโดยเปิดให้ เจ้าหน้าที่ศาล สื่อมวลชน และผู้ที่มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในบริเวณศาล สามารถเข้ามาในพื้นที่ได้แต่จะต้องมีการลงทะเบียนพร้อมตรวจบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวกรมประชาสัมพันธ์