ความเสี่ยงการเมืองกดดันหุ้นไทยเคลื่อนไหวด้อยกว่า (Underperform) หุ้นโลก

ความเสี่ยงการเมืองกดดันหุ้นไทยเคลื่อนไหวด้อยกว่า (Underperform) หุ้นโลก

โมเมนตัมหุ้นสหรัฐฯยังบวกโดดเด่นเหนือตลาดอื่น

หุ้นยุโรปโดยรวมปรับลงจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอและอัตราว่างงานยูโรโซน ก.ค.ที่ขยับขึ้นเป็น 7.9% แย่ลงจากมิ.ย.ที่ 7.7% ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีโดยรวมปรับขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้จัดหาชิ้นส่วนให้ไอโฟน ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นทุกตลาดนำโดยกลุ่มเทคโนโลยี และจากข้อมูลการผลิตที่แข็งแกร่ง โดยดัชนีภาคการผลิต ส.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 56.0 จาก ก.ค.ที่ 54.2 และสูงสุดนับจากม.ค. 62 เป้นต้นมา

ขณะที่หุ้นไทยยังถูกกดดันจากการเมือง การลาออกของรมว.กระทรวงการคลัง คุณปรีดี ดาวฉาย ด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพ ภายหลังรับตำแหน่งเพียง 27 วัน เป็นปัจจัยลบล่าสุดที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่อยู่ระหว่างรอยต่อสำคัญ ของการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือภาครัฐ และรอการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม อีกทั้งเพิ่มความกังวลต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง และสร้างแรงกดดันที่สูงขึ้นต่อรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การประกาศยุบสภา ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหยุดชะงัก หรือชะลอจนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ ขณะที่ในกรณีเลวร้าย หากการยุบสภาเกิดก่อนการผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2564 จะทำให้เกิดสูญญากาศของงบประมาณคล้ายที่เกิดในปี 2562 ซึ่งจะทำให้โครงการต่างๆหยุดชะงัก

หุ้นไทยอาจเคลื่อนไหวด้อยกว่าตลาดโลก นักลงทุนมีแนวโน้มเพิ่มความระวังต่อความผันผวนระยะสั้น แม้ปัจจัยเรื่องแนวโน้มผลประกอบการไม่ใช่ปัจจัยใหม่ แต่ในภาวะที่ปัจจัยภายนอกมีความไม่แน่นอนระยะสั้นที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะประเด็นการเมืองสหรัฐฯ หรือ No-deal Brexit ประกอบกับปัจจัยการใองภายใน ทำให้ประเมินตลาดอาจเพิ่มความระวังและมองการลงทุนที่มีผลตอบแทนมั่นคง หรือหุ้นในกลุ่มปลอดภัย (defensive) มากขึ้น

หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Thailand อาทิ CRC 2) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, TASCO

ภาพรวมกลยุทธ์ การลงทุนระยะกลางยังคงเป็นบวก แต่การเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ และผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในจุดเสี่ยงปรับขึ้น // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร TIP*, ADVANC*, CPNREIT*

แนวรับ 1,296 จุด / แนวต้าน : 1,320-1,329 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 – ธปท.เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ส.ค. อยู่ที่ 45.7 เพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดือน ก.ค. ที่ระดับ 42.9 โดยเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จากทิศทางของความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นของเกือบทุกธุรกิจในภาคการผลิตเป็นสำคัญ นำโดยกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์

สถาบันวิจัยฯเยอรมนีคาดการค้าโลกฟื้นตัว V-Shape – สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Kiel Institute for the World Economy ของเยอรมนี ประเมินการค้าโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ได้เร็วกว่าสมัยที่ฟื้นตัวจากวิกฤตการเงินโลกปี 2551 อย่างไรก็ตาม องค์การการค้าโลก หรือ WTO คาดว่าการค้าโลกจะหดตัวลง 13-32% ในปีนี้

ธปท.คาดลูกหนี้เข้ามาตรการมัดหนี้รายย่อย 2 หมื่นล้าน ธปท.เดินหน้าอุ้มลูกหนี้รายย่อยมัดหนี้บ้าน-สินเชื่อ ไม่มีหลักประกัน คิดดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 5.75-8.80% เผยมีสินเชื่อเข้าข่ายเข้าโครงการวงเงินราว 1-2 หมื่นล้านบาท

CPALL - ยันบริษัทยังไม่มีแผนเพิ่มทุน เหตุมั่นใจฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง-หนี้ ต่อทุนยังต่ำ เล็งออกขายหุ้นกู้อีก 2.5 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือนก.ย.นี้ เพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด

PACE (Not rated)ตลท.เตรียมขึ้นเครื่องหมาย NC เนื่องจากส่วนผู้ถือหุ้นน้อยกว่าศูนย์ ทำให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียน

ประเด็นติดตาม: 3 ก.ย. – FED Beige Book / 4 ก.ย. – US Employment Report / 7 ก.ย. – ตัวเลขการค้าจีน / 8 ก.ย. – EU GDP 2Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)