เชลล์วางฐานมาบตาพุด นำเข้าน้ำมันหนุน“อีอีซี ”

นายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผย เชลล์ ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศไทย และประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในประเทศไทยนั้น ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่โครงการ import terminal มาบตาพุด คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี2564 เพื่อตอบสนองความต้องการทางพลังงานของประเทศ 

โดยที่เชลล์จะสามารถนำผลิตภัณฑ์น้ำมันเข้ามาจากต่างประเทศได้ นอกจากนี้ที่ตั้งยังอยู่ในมาบตาพุด ซึ่งเป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทางเชลล์ ก็พร้อมสนับสนุนนโนยบายรัฐ จัดหาพลังงานผ่านเทอร์มินัลพื้นที่EEC

ส่วนเรื่องการลงทุนเพื่อรองรับกระแสการเข้ามาของยานยนต์ไฟฟ้า(EV) ในประเทศไทยนั้น เชลล์ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน โดยมุ่งมั่นสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ทั้งการสนับสนุนไบโอฟิว เช่น การจำหน่ายน้ำมันดีเซลบี7,บี10,บี20 และแก๊สโซฮอล์ อี10,อี20 รวมถึงพร้อมสนับสนุน EV เพราะเป็นนโยบายที่ดี ซึ่งในต่างประเทศ เช่น ยุโรป ก็มีการจัดตั้งตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า ส่วนในประเทศไทย ก็มีความร่วมมือกับพันธมิตรทดลองติดตั้งไปบ้าง แต่การขยายผลนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งยังต้องรอติดตามนโยบายภาครัฐ และความพร้อมของผู้บริโภคด้วย

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าขยายสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม) ปีละ 30 แห่ง จากปัจจุบันมีสถานีบริการฯอยู่ที่ 639 แห่ง และสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 660 แห่งรวมถึงธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) นั้น พร้อมขยายร้านกาแฟเดลี่ คาเฟ่ และร้านสะดวกซื้อเชลล์ ซีเล็ค ให้ครอบคลุมมากขึ้น

ทั้งนี้ เชลล์ ยังมีแผนขยายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายจะติดตั้งบนสถานีบริการฯเพิ่ม 100 แห่งภายในปี 2564 และจะขยายให้ครอบคลุมมากขึ้น ปัจจุบัน เชลล์ มีมาร์เก็ตแชร์ อยู่ที่ 11.3% เป็นอันดับ 4 ของประเทศ