'อีลอน มัสก์' แตกหุ้นเทสลา หนุนรวยแซง 'มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก'

'อีลอน มัสก์' แตกหุ้นเทสลา หนุนรวยแซง 'มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก'

“อีลอน มัสก์” รวยแซงหน้าซีอีโอเฟซบุ๊ค หลังจากแตกหุ้น ส่งผลให้มูลค่าตลาดของเทสลาอยู่ที่ 4.64 แสนล้านดอลลาร์

Billionaires Index ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลาอิงค์ ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยกว่านายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทเฟซบุ๊ค เนื่องจากราคาหุ้นเทสลาทะยานขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ หลังจากที่ทางบริษัทได้ทำการแตกหุ้น โดยขณะนี้ ความมั่งคั่งของนายมัสก์มีมูลค่าสูงถึง 1.154 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับนายซัคเคอร์เบิร์ก ซึ่งอยู่ที่ 1.108 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ มูลค่าความร่ำรวยของนายมัสก์พุ่งขึ้น 8.78 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ ขณะที่ราคาหุ้นเทสลาทะยานขึ้นเกือบ 500% ส่วนผลประกอบการของเทสลานั้น ทางบริษัทยังคงสามารถทำกำไรได้ในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา แม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยบริษัทสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้กว่า 179,000 คันในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งมากกว่ายอดขายของคู่แข่งทุกบริษัทรวมกัน

ขณะนี้ มูลค่าตลาดของเทสลาอยู่ที่ 4.64 แสนล้านดอลลาร์ แซงหน้าบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างวอลมาร์ท อิงค์ ซึ่งทำให้เทสลากลายเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่สุดในสหรัฐเมื่อพิจารณาในแง่ของรายได้

อย่างไรก็ดี หนทางที่นายมัสก์จะก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกนั้น ยังอีกยาวไกล โดยในขณะนี้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นของนายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งบริษัทแอมะซอน ซึ่งมีทรัพย์สินรวมมูลค่ามากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ดัชนี Billionaires Index ยังระบุว่า นางแมคเคนซี สก็อตต์ อดีตภรรยาของนายเบซอสได้กลายเป็นสตรีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยแซงหน้านางฟรองซัวส์ เบตเตนคอร์ท เมเยอร์ส ทายาทธุรกิจเครื่องสำอางค์ชั้นนำระดับโลกอย่างลอรีอัล เอสเอของฝรั่งเศส