ผันผวนจากการปรับน้ำหนักและประมาณการกำไรบจ.ยังไม่ฟื้นตัว

หุ้นยุโรปปรับลดลงหลังตัวเลขเงินเฟ้อ (ซึ่งเป็นตัวแทนการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ) ยังคงอ่อนแอ ขณะที่เราประเมินตลาดจะจับตาการหารือเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ในวันที่ 2 ก.ย. ซึ่งแนวโน้มของการแยกตัวโดยไม่มีข้อตกลงเริ่มสูงขึ้น และเป็นความเสี่ยงต่อความผันผวนระยะสั้น สำหรับหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์และ S&P ปรับลดลง ขณะที่ Nasdaq ยังคงปรับเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีแนวโน้มผลประกอบการดีกว่ากลุ่มธุรกิจโดยรวม

หุ้นไทยผันผวนจากการปรับน้ำหนักการลงทุนและกำไรบจ. หุ้นไทยผันผวนและปรับลลดลง 12 จุด ซึ่งเราคาดว่าเกิดจาก 1) การปรับน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ที่มีการลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นใหญ่ อาทิ PTT, CPALL, SCC, ADVANC, AOT, BDMS ซึ่งภาพรวมเป็นการปรับลดในเกือบทุกตลาด โดยมีเพิ่มน้ำหนักเพียงเกาหลีใต้แลมาเลเซีย 2) การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทย รวมถึงทิศทางประมาณการกำไรบจ.ที่อ่อนแอ (ปรับลดลงต่อเนื่องหลังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63) กดดันความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น (Earnings yield gap) ให้ยังคงปรับลดลง 3) การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตร ทำให้อัตราคิดลด (discounted rate) เพิ่มขึ้น กดดันต่อกลุ่มที่ซื้อขายด้วย Valaution ที่ที่แพง อาทิ โรงไฟฟ้า

ตลาดมีแนวโน้มเพิ่มความระวังต่อความผันผวนระยะสั้น แม้ปัจจัยเรื่องแนวโน้มผลประกอบการไม่ใช่ปัจจัยใหม่ แต่ในภาวะที่ปัจจัยภายนอกมีความไม่แน่นอนระยะสั้นที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะประเด็นการเมืองสหรัฐฯ หรือ No-deal Brexit ทำให้ประเมินตลาดอาจเพิ่มความระวังและมองการลงทุนที่มีผลตอบแทนมั่นคง หรือหุ้นในกลุ่มปลอดภัย (defensive) มากขึ้น

หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW / หุ้นที่มีปัจจัยบวก 1) เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Thailand อาทิ CRC 2) กำไรเติบโตโดดเด่น CKP, TASCO

ภาพรวมกลยุทธ์ การลงทุนระยะกลางยังคงเป็นบวก แต่การเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ และผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในจุดเสี่ยงปรับขึ้น แต่ปัจจัยดังกล่าวบวกต่อธนาคารและประกัน  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร TIP*, BCH*, WHAUP*

แนวรับ 1,306 จุด / แนวต้าน : 1,320-1,329 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

รองประธานเฟดเตรียมหารือมาตรการชี้นำนโยบายการเงินล่วงหน้า – รองประธานเฟดเผยว่าหลังการประกาศกรอบนโยบายการเงินแบบใหม่ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะนี้ เฟดได้เตรียมหารือเกี่ยวกับมาตรการชี้นำนโยบายการเงินล่วงหน้ารวมถึงการเปลี่ยนแปลงงบดุล

PMI ภาคบริการจีน พุ่งแตะ 55.2 – สนง.สถิติจีน (NBS) รายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ เดือน ส.ค. อยู่ที่ 55.2 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค. ที่ระดับ 54.2 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 54.2

วัคซีนไม่น่าทันเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ - นพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า เขาไม่เชื่อว่า FDA จะให้การอนุมัติวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.

ธปท.ระบุเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค. ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง - ธปท. ชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค. 63 ปรับดีขึ้นต่อเนื่องตามการใช้จ่ายภาครัฐและการผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองทั้งในและต่างประเทศ โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน มูลค่าการส่งออกสินค้า และการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลง

ธปท. เตรียมเป้าตัวเลขเศรษฐกิจรอบใหม่ - ธปท.เผยนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าเป้า 1.3 ล้านคน ทั้งปีเหลือ 6.7 ล้านคน จากเป้า 8 ล้านคน กระทบ GDP 0.5% จ่อปรับตัวเลขเศรษฐกิจรอบใหม่ในเดือน ก.ย.นี้

7 เดือนใช้น้ำมันหดตัวมาก - อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในรอบ 7 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-ก.ค.) อยู่ที่ 137.2 ล้านลิตร/วัน ลดลง 13.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 159.2 ล้านลิตร/วัน

ประเด็นติดตาม: 1 ก.ย. – US PMI เดือน ส.ค. / TH CPI เดือน ส.ค.,  3 ก.ย. – FED Beige Book

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)