เปิด "DEEP-ดิจิทัล"แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์

เปิด "DEEP-ดิจิทัล"แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์

“DEEP-ดิจิทัล” แพลตฟอร์มทางการศึกษายกกำลังสอง ที่ทางศธ. ภายใต้การนำของ “ณัฏฐพล" ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลการศึกษาเก็บฐานข้อมูลบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน

ว่ากันว่า DEEP จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางช่วยสร้างความเท่าเทียมของระบบการศึกษา ความยืดหยุ่นในการเรียนการสอนมากขึ้น โดยมีดิจิทัลแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่มีหลักสูตรหลากหลายรองรับ ผู้เรียนสามารถเลือกหัวข้อเรียนตามสมรรถนะที่ต้องการพัฒนาได้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักเรียน คุณครู และผู้บริหารสถานศึกษา

ที่สำคัญจะเป็นการตอบโจทย์สมรรถนะของบุคลากรที่ภาคเอกชนหรือตลาดต้องการ โดยประชาชนทั่วไปก็สามารถเข้ามาเรียนเพื่อการ Re-Skill เพิ่มทักษะของตัวเอง

“สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ” กล่าวว่าปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการศึกษามากมาย ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงอุดมศึกษา ยิ่งเมื่อเกิดโควิด -19 เป็นตัวเร่งให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการศึกษาเร่งรับมือกับเทคโนโลยี มีการนำเทคโนโลยี ดิจิตอลมาใช้ในการจัดการศึกษามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มีบทเรียนออนไลน์ การเรียนออนไลน์ของเด็กระดับพื้นฐาน หรือคอร์ดเรียนออนไลน์ของเด็กอุดมศึกษา

159887986557

เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การศึกษาไทยต้องปรับเปลี่ยน โดยต้องเน้นการพัฒนาทักษะใน 4 ด้าน ได้แก่ ทักษะด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking) การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking) การทำงานเป็นทีม (Collaboration) และมีทักษะการสื่อสารที่ดี (Communication) หากทำได้เชื่อว่า เยาวชนไทยจะได้รับการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งการศึกษายกกำลังสองของศธ.ในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาเยาวชนผ่านระบบดิจิทัล ดิสรัปชั่น

“การศึกษาต้องทำให้ผู้ใช้หรือนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และการใช้ดิจิทัลมาจัดการเรียนการสอน ต้องมีเครื่องมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ ต้องใช้งบประมาณ งบประมาณในเรื่องนี้เป็นอย่างไร รวมถึงต้องมีการเตรียมครู ให้ดีถึงจะทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันได้ และที่สำคัญเรื่องของการบริหารจัดการ จะทำอย่างไรให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ โครงการนี้ดีแต่จะทำอย่างไรให้ระบบนี้อยู่ต่อเนื่องได้” สมเกียรติ กล่าว

สำหรับการใช้งานบนแพลตฟอร์ม DEEP นั้นเป็นระบบการล็อกอินเดียว (Single Sign-on) โดยเมื่อลงทะเบียนบน DEEP ในครั้งแรกและได้รับอีเมลจากระบบก็สามารถเข้าใช้แพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง กูเกิล ไมโครซอฟต์ผ่านแพลตฟอร์ม DEEP ได้ และอนาคตทางศธ.วางแผนให้ DEEP ได้เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่นอกจากจะช่วยพัฒนาองค์ความรู้ให้นักเรียนและครูในระบบแล้ว

ยังช่วย “ปรับเปลี่ยน” ระบบการเรียนการสอนของไทย ให้นักเรียน นักศึกษาได้ทำการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองนอกห้องเรียน และนำมาวิเคราะห์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณครูที่จะรับหน้าที่ในการเป็นผู้อำนวยความสะดวกทางการเรียนหรือ Facilitator ได้ด้วย

159887989275

อีกทั้ง DEEP ยังสามารถเก็บสถิติการเรียนการสอนในแต่ละครั้งของนักเรียนและครู โดยในปัจจุบันตั้งแต่เปิดการใช้ DEEP อย่างไม่เป็นทางการนั้นมีผู้เรียนล็อกอินเพื่อใช้ DEEP ไปแล้วกว่า 450,000 ครั้ง

“ปวิช ใจชื่น รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข, บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด” กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์โควิด -19 มีผลต่อชีวิตทุกคนทั้งภาคเศรษฐกิจ ภาครัฐ รวมถึงภาคการศึกษา ในฐานะไมโครซอฟท์สำหรับภาคการศึกษาต้องมองว่าจะทำอย่างไรให้นักเรียนและครูสามารถใช้เทคโนโลยี ดิจิทัลได้มีคุณภาพ ควบคู่กับการจัดทำข้อมูลดิจิตอลที่ครู ผู้บริหารโรงเรียนจะได้นำมาพัฒนาคุณภาพนักเรียน

“การที่จะทำให้โรงเรียนสู่ห้องเรียนออนไลน์ได้นั้น ต้องมีการเตรียมครู และต้องมีโค้ชที่จะเข้าไปช่วยครู รวมถึงมีข้อมูลที่ครอบคลุมเด็กทุกคน เพราะผมเชื่อว่าเมื่อศาสตร์แห่งการสอนจากอาจารย์มาจับคู่กับเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนเฉพาะเพื่อการศึกษาแบบผสมผสาน จะสามารถเข้ามาขับเคลื่อนผลสัมฤทธิ์ด้านการศึกษาอันเป็นเลิศ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเติมเต็มประสบการณ์ด้านการศึกษาให้แก่ครูและนักเรียนได้ดีที่สุด” ปวิช กล่าว

จากสถิติของกระทรวงศึกษา พบว่ามีตลาดผู้เรียนกว่า 10 ล้านคนโดยประกอบด้วย นักเรียน ครู และผู้บริหารสถานศึกษา ขณะที่นอกระบบการศึกษามีภาคสังคมที่ต้องการการพัฒนาทักษะที่จำเป็น และขณะเดียวกันภาคเอกชนก็มีผู้ผลิตคอนเทนต์ที่มีประโยชน์มากมาย DEEP จึงเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาความรู้ต่างๆ ได้มากขึ้น

159887986353

ทั้งนี้ สำหรับช่วงระยะแรกของ DEEP เริ่มต้นให้การพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ และทักษะด้านดิจิทัลให้กับนักเรียน ครู และผู้บริหารสถานศึกษา โดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนที่เป็นผู้ผลิตหลักสูตรชั้นนำและได้รับการยอมรับทั่วโลกด้านมาตรฐานการประเมินผล อาทิ Google, Microsoft, Cambridge Assessment English, Pearson, British Council, IC3, ICDL, Arkki และมหาวิทยาลัยในเครือราชภัฏ ในการอัพโหลดเนื้อหาขึ้นบนแพลตฟอร์ม

เป็นความมุ่งมั่นของศธ.ที่จะใช้ระบบการศึกษาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการพัฒนาทุนมนุษย์สู่ความเป็นเลิศ โดยมุ่งเน้นให้กระบวนการทำงานของศธ.ปลดล็อก ปรับเปลี่ยน เปิดกว้าง เพื่อรองรับการปฏิรูปทางการศึกษาตามแผนงานการศึกษายกกำลังสอง โดยมี DEEP เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบูรณาการการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม DEEP จะเป็นห้องเรียนแห่งชาติที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เข้าถึงความรู้ที่ทันสมัย ทันต่อโลก ง่ายแค่เพียงคลิกเดียว โดยสามารถเข้าชมหน้าแพลตฟอร์ม DEEP ได้ที่ www.deep.go.th