เกษรวิลเลจปั้นไลฟ์สไตล์รีเทล ชู ‘Work-Live-Play-Grow’ฉีกคู่แข่ง

เกษรวิลเลจปั้นไลฟ์สไตล์รีเทล ชู ‘Work-Live-Play-Grow’ฉีกคู่แข่ง

แม้ที่ผ่านมาการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจะเป็นภารกิจหลักของทุกๆ ธุรกิจ แต่วิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้สร้างผลกระทบรุนแรงและทำให้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นโจทย์ท้าทายธุรกิจในการขับเคลื่อนการเติบโต

ฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษรพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ “เกษรวิลเลจ” ได้ปรับกลยุทธ์การตลาดครั้งใหญ่ จากความเป็น Traditional retail mindset สู่ “Customer centric mindset” เป็นพื้นฐานของการคิด โดยมุ่งให้คุณค่า (Value) ที่แท้จริงกับลูกค้าผ่านประสบการณ์เฉพาะ ที่พัฒนามาจากความต้องการเชิงลึก 

เป็นที่มาของการยกเครื่องมาร์เก็ตติ้งยุคโควิด หรือ “The Reimagining Strategy” รองรับการทำตลาดไตรมาสสุดท้ายนี้ ด้วยแม่เหล็ก “ไลฟ์สไตล์รีเทล” จากพันธมิตรอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ รวมกว่า 25% ของพื้นที่ค้าปลีก 8,000 ตร.ม. ที่จะมาสร้างประสบการณ์ตอกย้ำความเป็น High-end Lifestyle Urban Village และแลนด์มาร์คด้านธุรกิจ การค้า และการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเทียบเท่าย่านดังระดับโลก

ไลฟ์สไตล์แบรนด์รีเทลและผู้เช่ารายใหม่ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มทั้ง 3 อาคารได้แก่ เกษรเซ็นเตอร์ เกษรทาวเวอร์ และอัมรินทร์พลาซ่า เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาว ซึ่งอาคารทั้ง 3 เป็นจุดหมายหลักสำหรับนักช้อปและพนักงานออฟฟิศ ที่มีการผสมผสานแฟชั่นรีเทลแบบมิกซ์ยูส และอาคารสำนักงานเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์และวัฒนธรรมการใช้ชีวิตคนเมืองในรูปแบบเวอร์ติคอล คอมมูนิตี้ คอนเซปต์ Work-Live-Play-Grow”

"วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างสรรค์สถานที่ที่คนกรุงเทพฯ จะเลือกมาใช้เวลาไม่ว่าจะเป็นการทำงาน รับประทานอาหาร ชอปปิง หรือพบปะสังสรรค์ ซึ่งแบรนด์ผู้เช่าใหม่จะทำให้เกษรวิลเลจ และย่านราชประสงค์ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับการชอปปิงและการทำงานแม้ในช่วงเวลาอันท้าทายเช่นนี้”

พร้อมกันนี้ มีการปรับกิจกรรมการสื่อสาร และ “สาร” ที่จะใช้สื่อกับลูกค้า ซึ่งได้รื้อแผนที่ถูกวางไว้ตั้งแต่ปีก่อนใหม่ทั้งหมด โดยนำ “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” ต่างๆ เป็นเครื่องมือเสริมศักยภาพให้เกษรวิลเลจมากขึ้นทั้ง LINE OA กับ ลอยัลตี้โปรแกรม เว็บไซต์ และโปรแกรมเมมเบอร์ชิพ

แบรนด์แม่เหล็กต่างๆ เริ่มตั้งแต่กลุ่มแฟชั่นที่ได้  "Club21 Group" มีกว่า 50 แบรนด์ในพอร์ตให้บริการบนพื้นที่ 1,300 ตร.ม. ประกอบด้วย Comme des Garçons สาขาใหญ่สุดในไทย “CDGCDGCDG” เป็นร้านฟรีสแตนดิ้งแห่งแรกในไทยและนอกญี่ปุ่นที่ได้รับการออกแบบเป็นโอเพ่นสเปซ รวมถึงร้าน “Club21 Multi label brand” และ “Club21 Men” ที่จะเปิดบริการไตรมาสแรกปี 2564 นอกจากนี้ยังมี “Club21POP-Up Store” 

ในกลุ่มเมกะเทรนด์บิวตี้และเวลเนส "Jetts Black" ลักชัวรีฟิตเนสเปิดบริการ ก.ย.นี้ พื้นที่ 700 ตร.ม. รวมทั้ง "AP House by Audemars Piguet" แบรนด์นาฬิการะดับโลกสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ให้บริการที่เกษรทาวเวอร์ พื้นที่ 600 ตร.ม. เป็น AP House แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแห่งที่ 8 ของโลก ต่อจากมิลาน, ฮ่องกง, มาดริด, มิวนิก, นิวยอร์ก, บาร์เซโลนา และลอนดอน 

เกษรวิลเลจ ยังมีแบรนด์นาฬิกา Carl F. Bucherer หนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาสวิสไม่กี่แบรนด์ที่ยังคงเป็นของตระกูลผู้ก่อตั้งและไม่เคยเปลี่ยนมือ รังสรรค์ผลงานที่เปรียบได้กับมรดกอันล้ำค่า  “SARCAR” แบรนด์นาฬิกาที่ขึ้นชื่อด้านการผลิตนาฬิกาประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีล้ำค่าเปิดบูติกแรกที่เกษรวิลเลจ “The Coffee Academics" ร้านสเปเชียลตี้คอฟฟี่จากฮ่องกงเปิดบริการที่เกษรวิลเลจเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา “Burger&Lobster” ร้านอาหารดังจากอังกฤษขยายไลน์มาเปิดสาขาแรกและสาขาเดียวในเมืองไทย 

ข้ามไปฝั่งอัมรินทร์พลาซ่า “จัสโค” ผู้ให้บริการด้านพื้นที่ทำงานเป็นผู้เช่ารายใหม่ให้บริการบนพื้นที่ 4,500 ตร.ม. สร้างประสบการณ์การทำงานแบบเฉพาะสำหรับองค์กรและสตาร์ทอัพ ที่ผ่านมา เกษรวิลเลจ ยังได้ให้บริการ “GaysornTo You” ผู้ช่วยชอปปิง! โดยมีทั้งบริการนำสินค้าให้เลือกช้อปถึงบ้าน บริการจัดส่งสินค้าถึงรถของลูกค้า และบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน เพื่อลดการสัมผัส และหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในกรณีที่ลูกค้าต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ลูกค้ายังคงให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง และมองหาศูนย์การค้าที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่โต ไม่แออัด และบริหารจัดการได้หมาะสม นำมาสู่การปรับเปลี่ยนกิจกรรมหลากหลายเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนทำงานออฟฟิศที่เชื่อว่ายังเป็นกำลังสำคัญในการกระตุ้นยอดขาย