SEAFCO - ซื้อ
สังข์ทองรอมาลัย
ณ สิ้นสุดมิถุนายน บริษัทรายงานงานในมือ (backlog) อยู่ที่ Bt2,159m ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้จนถึง 1Q21 โดยความเสี่ยงหลักในปัจจุบันได้แก่การหาโครงการใหม่มาเติม backlog แต่ยังมี upside จากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 2 โครงการได้แก่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) และ สายมีม่วง (ใต้) ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานฐานรากมูลค่า Bt8.8b เพียงพอสำหรับการเติม backlog เรากลับมา coverage ต่อพร้อมคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย Bt6.90/sh เทียบเท่า 15x FY21F PE
งานในมือปัจจุบัน (backlog) จะสร้างรายได้จนถึง 1Q21
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน บริษัท รายงาน Backlog จำนวน Bt2,159m ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ถึง 1Q21 ในขณะเดียวกันมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอประมูลจากเจ้าของโครงการมูลค่าราว Bt5.0b เราคาดว่าบริษัทจะได้งานประมูล Bt1.5b อิงสมมติฐานว่าบริษัทจะสามารถชนะการประมูลได้ 30% (ตามสัดส่วนการตลาดของบริษัท)
จุดแข็งกลายเป็นดาบสองคมในปีนี้
เนื่องจากงานเสาเข็มเจาะและผนังกันดินใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนในการทำงาน ดังนั้นความเสี่ยงต่อความผันผวนของวัสดุก่อสร้าง แรงงานและต้นทุนน้ำมัน รวมถึงความเสี่ยงจากกฎระเบียบใหม่ ๆ อยู่ในระดับต่ำ แต่ความเสี่ยงที่จะไม่สามารถหาโครงการใหม่ได้เมื่อเสร็จสิ้นในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัวเช่นในปีนี้
กำไรขั้นต้นอ่อนแอลงจากการแข่งขันสูง
กำไรขั้นต้นใน 1H20 ลดลงสู่ระดับ 18.3% เทียบกับ 21.3% ใน 2019 เนื่องจากการแข่งขันที่สูงในตลาดงานฐานราก นอกจากนี้ 73% ของ backlog เป็นงานในลักษณะเหมาค่าแรงและวัสดุก่อสร้างซึ่งมีอัตรากำไรที่ต่ำกว่างานเหมาค่าแรงอย่างเดียว เราคาดว่าสถานการณ์อัตรากำไรที่ต่ำจะยังคงอยู่ไปจนถึงปี 2021
ดำเนินการ coverage ต่อด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมราคาเป้าหมาย Bt6.90/sh
เราคาดว่ากำไร FY20F จะอยู่ที่ราว Bt289m และกำไร FY21F จะเติบโต 17% สู่ระดับ Bt339m นอกจากนียังมี upside จาก (1) รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) และ (2) รถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานฐานรากมูลค่า Bt8.8b เพียงพอที่จะเติม Backlog เรากลับมา coverage ต่อด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย Bt6.90/sh เทียบเท่า 15x FY21F PE หรือค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปี