สธ.ปลุกคนไทยร่วมต้านการยกเลิก 'แบน 3 สารพิษ'

สธ.ปลุกคนไทยร่วมต้านการยกเลิก 'แบน 3 สารพิษ'

“อนุทิน”ผนึกทุกกรมสธ.ประกาศจุดยืน “แบน 3 สารพิษ” ปลุกคนไทยแสดงพลังร่วมต้าน-ขัดขวางการทบทวนมติคกก.วัตถุอันตรายที่จะยกเลิกการการห้ามใช้ ย้ำสุขภาพประชาชนต้องมาก่อน แม้กระทบทางเศรษฐกิจบ้าง ขอให้รัฐบาลยึดหลักคิดเดียวกับการบริหารโรคโควิด-19

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เวลา 10.50 น. ที่อิมแพคฟอรัม เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรงสาธารณสุข พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีทุกกรมในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวแสดงจุดยืนยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิดในภาคเกษตร คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต เนื่องจากกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รีฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเสนอคณะกรรมการวัตถุอันตราย ให้พิจารณาทบทวนมติการแบน 3 สารเคมีอันตราย


นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการควบคุม ป้องกัน รักษาโรคและอาการเจ็บป่วยของประชาชนคนไทยทุกคน ขอยืนยันว่าไม่เห็นด้วยและจะคัดค้านถึงที่สุดต่อกรณีที่มีความพยายามจะให้มีการยกเลิกการแบนสารเคมีอันตรายที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดทั้งในกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้ และผู้บริโภค โดยสธ.มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ถึงอันตรายของสารเคมีที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติห้ามใช้ไปแล้วและมีกรณีของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของสธ. โดยเป็นอาการป่วยที่เกิดจากการใช้สารเคมีอันตรายและมีการสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน

159885539062
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขอวิงวอนขอร้องให้ผู้ใด หน่วยงานใดก็ตามที่กำลังกดดันให้มีการยกเลิกการห้ามใช้สารเคมีอันตรายของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ขอให้คำนึงถึงผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนคนไทยเป็นสิ่งแรก ขอระลึกไว้เสมอว่าจะมีเงินรายได้เท่าไหร่ก็ไม่อาจทดแทนสุขภาพและชีวิตที่สูญเสียไปได้ สธ.ขอให้ใช้หลักคิดเดียวกับการที่รัฐบาลบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาด โควิด-19ที่ได้ผลและเกิดการยอมรับไปทั่วโลก โดยมีหลักการสำคัญคือสุขภาพของคนไทยต้องมาก่อน ต้องอยู่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด แม้จะมีสิ่งกระทบทางเศรษฐกิจบ้างแต่คนไทยต้องมีสุขภาพที่ดีปลอดภัยจากโรคทุกชนิด ซึ่งในคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีผู้แทนของสธ.เพียง 2 ท่าน คือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)จากทั้งหมด 27 ท่าน หากจะมีการโหวตก็แพ้จึงต้องออกมาให้ข้อมูลกับประชาชน


“แม้สธ.จะยืนยันงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลผลกระทบทางสุขภาพและรายงานผู้ป่วย รวมถึง คณะกรรมการวัตถุอันตรายเคยมีมีมติเรื่อง 3 สารพิษมาหลายครั้ง แต่ก็มีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด บางครั้งแบนได้1-2 เดือนก็เปลี่ยน หรือบางสารที่แบนไม่ได้ก็ให้ยืดเวลาอนุญาตการใช้ แต่พอครบกำหนดเวลาการยืด ก็จะมาบอกว่าขอให้กลับไปพิจารณาเรื่องการแบนใหม่ หากเป็นแบบนี้จะมีมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายทำไมถ้าเปลี่ยนตลอดเวลา ใช้วิธีการจับฉลากแทนก็ได้”นายอนุทิน กล่าว


นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สธ.เป็นหน่วยงานราชการเดียวที่ยืนยันเรื่องการแบนและห้ามใช้สารเคมีอีกทั้ง 3 ชนิดเพื่อการเกษตรกรรมมาโดยตลอด ครั้งนี้จึงมีความเป็นห่วงว่าหากมีการนำเสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณามติใหม่ จะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการนำสารเคมีอันตรายที่มีการสั่งห้ามไปแล้วกลับมาใช้อีกครั้ง ก็จะมีผลกระทบต่อสุขภาพผู้บริโภคและเกษตรกรรมในประเทศไทย ดังนั้น ขอความร่วมมือประชาชนในการขัดขวาง ต่อต้าน และคัดค้านการทบทวนมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่อาจจะยกเลิกการแบน 3 สารอันตราย เพราะหากประชาชนส่งเสียงพร้อมกันเพื่อคุ้มครองตัวเอง จะไม่มีใครกล้าเอาสารเคมีอันตรายมาทำร้ายคนไทยต่อไป