เกาหลีใต้เอาจริง! แจ้งความหมอประท้วง

เกาหลีใต้เอาจริง! แจ้งความหมอประท้วง

รัฐบาลเกาหลีใต้เพิ่มความพยายามยุติการประท้วงแพทย์หลายพันคนทั่วประเทศ พร้อมใช้มาตรการควบคุมร้านอาหารอย่างเข้มงวด ป้องกันไม่ให้การติดเชื้อพุ่งสูงในเขตมหานครโซล ศูนย์กลางการระบาดรอบใหม่

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุขัดแย้งระหว่างแพทย์กับรัฐบาลเกาหลีใต้ยืดเยื้อหลังจากทางการเกาหลีใต้ต้องจัดการกับการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระลอกใหม่

วานนี้ (28 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ขยายเส้นตายคำสั่งให้แพทย์ทั่วประเทศกลับไปทำงานอีก 2 วัน พร้อมแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับแพทย์อย่างน้อย 10 คน ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งบังคับใช้ในกรุงโซลตั้งแต่วันพุธ (26 ส.ค.)

ปัก นึงฮู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแถลงวานนี้ ระบุ “เพื่อเป็นการปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของพลเมืองที่เผชิญวิกฤติการติดต่อโควิด-19 อย่างรุนแรงทั่วประเทศ รัฐบาลจำต้องขยายคำสั่งให้แพทย์ฝึกหัดและแพทย์อาชีพทั่วประเทศกลับไปทำงานในวันนี้”

ตอนที่โควิดระบาดรอบแรกเกาหลีใต้ใช้มาตรการเชิงรุกทั้งการตรวจหาเชื้อและตามรอยโรค จนควบคุมการระบาดขนาดใหญ่ไว้ได้ แต่เดือนนี้สถานการณ์กลับพลิกผัน พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่โบสถ์แห่งหนึ่งแล้วแพร่เข้าไปในกลุ่มผู้ร่วมเดินขบวนประท้วง

ทั้งนี้ แพทย์ฝึกหัดและแพทย์ประจำบ้านเกาหลีใต้เกือบ 16,000 คน หยุดงานตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. ประท้วงแผนการของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มจำนวนแพทย์ตลอด 10 ปีข้างหน้า โดยให้เหตุผลว่า จำเป็นต้องเตรียมตัวรับมือวิกฤติสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้น แต่นักศึกษาแพทย์แย้งว่า รัฐบาลควรใช้เงินกองทุนพิเศษมาเพิ่มเงินเดือนแพทย์ฝึกหัด และแก้ปัญหาเชิงระบบจะดีกว่า

อาจารย์แพทย์ แพทย์ฝึกหัด และแพทย์คลินิกส่วนตัวเริ่มประท้วง 3 วันตั้งแต่วันพุธ เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแพทย์ฝึกหัดและแพทย์ประจำบ้าน ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของบริการดูแลสุขภาพในจุดสำคัญ เช่น ห้องฉุกเฉิน หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติ (ไอซียี) 

ตั้งแต่แพทย์ประท้วงโรงพยาบาลใหญ่ๆ รายงานว่า การทำงานล่าช้าและปั่นป่วน แพทย์ที่มาประท้วงเป็นแพทย์ที่สมัครใจมาทำงานที่ศูนย์บริการตรวจโควิดชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

ส่วนเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขแจ้งความกับแพทย์นั้น ชเว แดซิป ประธานสมาคมแพทย์เกาหลีแถลงข่าวหน้าสถานีตำรวจกรุงโซล “เราขอประณามรัฐบาลที่แจ้งความคดีอาญา ทั้งๆ ที่เราไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเพียงวันเดียวเท่านั้น”

ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดพบว่า ประชาชนเกาหลีใต้มองการประท้วงอันโด่งดังครั้งนี้และการรับมือของรัฐบาลแตกต่างกันไป ลิม ซุนจา ผู้ป่วยมะเร็งไทรอยด์ วัย 71 ปี เผยกับรอยเตอร์ที่นอกโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลว่า เข้าใจแพทย์แต่นี่ไม่ใช่เวลามาประท้วง รอให้การระบาดสงบแล้วค่อยแสดงความคิดเห็น

ไม่เพียงเท่านั้น วานนี้ทางการยังควบคุมความเคลื่อนไหวของประชาชนในเขตมหานครโซล ศูนย์กลางการแพร่ระบาดรอบใหม่ เข้มงวดยิ่งขึ้นไปอีก

ร้านกาแฟ ที่บางร้านถูกระบุว่าเป็นศูนย์กลางการระบาด ถูกจำกัดให้ต้องซื้อกลับบ้านหรือบริการส่งได้เท่านั้น ร้านอาหาร ร้านขนมและเบเกอรี่ห้ามนั่งรับประทานในร้านระหว่างเวลา 21.00 น.-5.00 น. มาตรการนี้จะใช้อย่างน้อย 1 สัปดาห์

โบสถ์ ไนต์คลับ และโรงเรียนส่วนใหญ่ในกรุงโซล ถูกสั่งปิดไปเรียบร้อยแล้ว การสวมหน้ากากในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ

นายกรัฐมนตีชุง เซกยุน ประกาศว่า รัฐบาลเห็นชอบขยายมาตรการควบคุมเฟส 2 (จาก 3 เฟส) ทั่วประเทศต่อไปอีก 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย โดยย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า มาตรการเว้นระยะเฟส 3 เป็นทางเลือกสุดท้ายที่รัฐบาลจะใช้เพราะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคม

จอง อึนคย็อง ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี) เตือนด้วยว่า การวิเคราะห์ตัวแบบชี้ หากสกัดโควิดไม่ได้ อาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งมากถึงวันละ 2,000 คน

ข้อมูลนับถึงเมื่อเที่ยงคืนวันพฤหัสบดี (27 ส.ค.) เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 371 คน ส่งผลยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ 19,077 คน เสียชีวิต 316 คน