เฟดจะใช้ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย"

เฟดจะใช้ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย"

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดปรับตัวขึ้น แข็งแกร่งกว่าภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ โดยดัชนีวานนี้ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเป็นหลัก

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,326.81 จุด +4.26 จุด +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นลบ. ต่างชาติ -3,070.59 ลบ. TFEX Net +2,362 สัญญา ตราสารหนี้ -1,004 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 160.35 จุด +0.57% ขานรับประธานเฟดเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญปูทางให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ

+สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายสูงกว่าคาดในเดือนก.ค.

+ปธน.ทรัมป์จะประกาศซื้อชุดอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบรวดเร็ว จำนวน 150 ล้านชุดวงเงิน 750 ล้านดอลลาร์จากแอบบอตต์ แลบอราโทรีส์

เพื่อช่วยให้สหรัฐยังคงเปิดเศรษฐกิจต่อไป

+ธปท.ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยให้นำหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อ เจ้าหนี้เดียวกันหรือในเครือมาปรับโครงสร้างหนี้รวมกับสินเชื่อบ้านได้ เพื่อใช้ประโยชน์จากหลักประกันสินเชื่อบ้านที่เหลืออยู่

+สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสอดคล้องคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดเพิ่มขึ้น 20.37 จุด +0.61%

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 35 เซนต์ -0.8% ปิดที่ 43.04 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังนลท.คาดว่าพายุเฮอร์ริเคนที่พัดถล่มอ่าวเม็กซิโกจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการผลิตน้ำมันและเชื่อว่าการผลิตน้ำมันจะฟื้นตัวในไม่ช้านี้

-ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 82.00 จุด -0.35% เช้าเปิด +23.44 จุด รับความหวังศก.โลกฟื้นตัว

+/-สหรัฐเผย GDP Q2/63 หดตัว 31.7% หนักสุดในรอบกว่า 70 ปี แต่ดีกว่าที่คาดว่าจะหดตัว 34.7%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.44 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.29 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากการที่เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย"เพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ แรงหนุนจากความคืบหน้าในการผลิตชุดอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งสามารถให้ผลการทดสอบภายใน 15 นาที คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,315-1,335 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

SPVI | คงประมาณการเดิม แต่เพิ่มราคาเป้าหมายสู่ 3.64 บาท (เพิ่ม 17%) โดยคาดกำไร 2H63 โตแข็งแกร่ง +115%HoH สนับสนุนด้วย Theme 5G

 

โดยผลประกอบการ 2H63 มีปัจจัยสนับสนุน 3 ประการ

1) งวด 3Q63 เปิด U-Store เพิ่มแล้ว 3 สาขา ได้แก่ i) ม.ราชภัฏรำไพพรรณี ii) ม.เชียงใหม่ และ iii) ม.สงขลานครินทร์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีเปิดสาขา A-Store เป็นสาขาแรกภายใน ม.ศรีนคริทรวิโรฒ ประสานมิตร โดยการเป็น partner กับ AIS ในการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ใช่แบรนด์ Apple (ยังไม่รวมในประมานการปี 63)

2) iPhone12 ซึ่งเป็น iPhone รุ่นแรกของ Apple ที่รองรับระบบ 5G โดยคาดเปิดตัวในช่วงปลาย ก.ย. ถึงต้น ต.ค. และคาดจะรับรู้เป็นรายได้ในช่วง 4Q63 ประกอบกับคาดกลุ่ม Operator จะออกแพ็กเกจ 5G ในช่วงดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้โทรศัพท์ที่รองรับระบบ 5G ได้กระแสตอบรับดี 3) บริษัทมีแผนเปิดสาขา U-Store ในช่วงที่เหลือของปีอีก 4 สาขา และสาขา A-Store อีก 1 สาขา (ยังไม่รวมในประมาณการ)

และ 3) ได้ผลบวกจากสถานการณ์ COVID-19 เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยจะเห็นได้ชัดว่าช่วง 2Q63 ยอดขาย iPad เพิ่มสูงขึ้น และโดยปกติลูกค้าจะซื้อควบคู่กับ Apple Pencil ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังธปท.ห้ามมือถือ 'รุ่นเก่า' ใช้โมบายแบงกิ้ง (COM7 SPVI JMART SIS SYNEX)
  • ครม.เพิ่มสิทธิ์ 'เราเที่ยวด้วยกัน' (ERW MINT CENTEL AAV BA)

หุ้นมีข่าว

(+/-) BCPG (Bloomberg Consensus 18.97 บาท) ออกหุ้นเพิ่มทุน 1,301.7 ล้านหุ้น หวังระดมทุน 1.035 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนโครงการที่มีอยู่ในมือ และเตรียมไว้ลงทุนโครงการใหม่ในไทย-ต่างประเทศ มั่นใจลดผลกระทบไดลูชั่นในระยะสั้นได้ ลั่นเป้าสร้างอีบิทด้าโต 2 เท่าในอีก 5 ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) GULF (Bloomberg Consensus 37.91 บาท) ลั่นเป้าปีหน้ารายได้โตเกือบ 50% บุ๊ก COD โรงไฟฟ้าไอพีพีใหม่-โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเยอรมนีเต็มปี พร้อมมั่นใจเพิ่มทุน 1,066.65 ล้านหุ้นฉลุย! คาดได้เงิน 3.2 หมื่นล้านบาท รองรับโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มศักยภาพการลงทุนอีก 1.1 แสนล้านบาท ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MEGA (Bloomberg Consensus 39.08 บาท)  ลั่นผลงานครึ่งหลังโตรับไฮซีซั่น-ร้านยาเปิดบริการปกติ-ตลาดเมียนมายอดขายเด่น ย้ำปี 63 รายได้โต 5-10% ตามแผน ชูยอดขายธุรกิจอาหารเสริม 2 แบรนด์หลัก Mega We Care และ Maxxcare ขยายตัว (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) BAM (Bloomberg Consensus 28.00 บาท)   เประกาศงบ Q2 วันนี้ โบรกฯมองครึ่งปีหลังเติบโตในอัตราเร่งตัวจากการกระตุ้นยอดขายสินทรัพย์ และกำไรพิเศษ DTA ด้านผู้บริหารเตรียมวงเงิน 2.5 หมื่นล้านซื้อหนี้เสียหลังหมดระยะพักชำระหนี้เดือนตุลาคมนี้ ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) NER (Bloomberg Consensus 4.35 บาท) เนื้อหอมกองทุนชื่อดังญี่ปุ่น Daiwa (ไดวา) ซื้อบิ๊กล็อต 4.87% ที่ราคา 3.06 บาท "ชูวิทย์" ชี้จะเห็นผลดีในอนาคตจากชื่อเสียงทำให้เจาะตลาดญี่ปุ่นง่ายขึ้น ขณะที่โครงสร้างหุ้นดูดีมีกองทุนถือ รับ Daiwa ต้องการหุ้นมากกว่านี้จ่อเข้า PP อีก ด้านกองทุนอื่นติดต่อเข้ามาเพียบ เหตุมองเห็นการเติบโตแรง โบรกเคาะเป้า 5 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CK (Bloomberg Consensus 23.18 บาท)  ถึงรอบรับเหมางบปี 2564 ใกล้เข้าสภา การเมืองเริ่มผ่อนคลาย ได้ฤกษ์ CK ผงาด โบรกชี้ราคาต่ำเกินไป เมื่อเทียบมูลค่าบริษัทลูกที่ถือ เคาะพื้นฐานได้ 35 บาท เล็ง Q3 กำไรแรงแตะ 400 ล้านบาท BEM-CKP ฟื้น ส่งส่วนแบ่งเพียบ ด้านงานก่อสร้างโอกาสสูง สีม่วง-รถไฟรางคู่-เขื่อน รับ 1.5 แสนล้านบาท เติมแบ็กล็อกรอสายสีส้มเติมทะลุ 2 แสนล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ACE (Bloomberg Consensus - บาท) ชูโมเดล "โรงไฟฟ้าขยะชุมชน MSW ขอนแก่น" คือต้นแบบของไทยและอาเซียน ช่วยลดปริมาณขยะในพื้นที่ได้กว่า 400 ตันต่อวัน เดินหน้าสร้างความตระหนักรู้กับสื่อและชุมชน พร้อมปลุกจิตสำนึกการใช้ไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (ที่มา ทันหุ้น)