‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์ม’ ไทยโตแกร่ง ‘ฟูจิตสึ’ จัดโซลูชั่นครบวงจรหนุน

‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์ม’ ไทยโตแกร่ง ‘ฟูจิตสึ’ จัดโซลูชั่นครบวงจรหนุน

ฟูจิตสึต้องเป็นพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง เพื่อส่งต่อความสำเร็จการเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรสู่ธุรกิจดิจิทัล

จัด4โชลูชั่นดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม

‘พรชัย พงศ์เอนกกุล’ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า การขยายบริการธุรกิจดิจิทัลควบคู่การแนะนำให้คำปรึกษา โดยเฉพาะกลุ่มบริการ ดีเอ็กซ์-ดาต้า ไดร์ฟเว่น  และ ดีเอ็กซ์-โมเดิร์นไนซ์ ภายในปีนี้ จะใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ช่วยปลดล็อคให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากข้อมูล เพื่อโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ครอบคลุมตั้งแต่ส่วนขอบไปจนถึงส่วนแกนหลักของเครือข่ายรวมถึงระบบคลาวด์

โดยจะนำเสนอ 4 โซลูชั่นดิจิทัล ประกอบด้วย 1.สมาร์ท แฟคทอรี่ ขับเคลื่อนกระบวนการโรงงานผลิตเข้าสู่ ดิจิทัล โพรเซส สร้างความคล่องตัวให้การผลิต 2.ดาต้า อนาไลติกส์ วิเคราะห์ข้อมูล สำรวจ ประมวลผล ปกป้อง และสร้างรายได้จากข้อมูล 3.โรโบติกส์ โพรเซส ออโตเมชั่น (RPA) ใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วย สร้างความถูกต้องแม่นยำ ลดต้นทุนการทำงาน เพิ่มอัตราผลผลิตได้ดี และ 4.สมาร์ท เวิร์คเพลส  เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระยะไกลผ่านโซลูชันดิจิทัล การรีโมทเครือข่ายเพื่อทำงานร่วมกันของทีมงาน

เขากล่าวด้วยว่า กลุ่มบริการดีเอ็กซ์-โมเดิร์นไนซ์ ฟูจิตสึมีพาร์ทเนอร์ที่เข้มแข็ง เพื่อสร้างมูลค่าธุรกิจเพิ่มให้ลูกค้า ซึ่งบริการนี้ขยายตัวสูงมากในปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นขึ้นในประเทศไทยเพื่อสนองตอบให้ลูกค้าได้ดำเนินธุรกิจได้คล่องตัวในสถานการณ์โควิด-19 ชื่อ “COVID Respond Campaign” เช่น 1.เฮลธ์ สกรีนนิ่งโซลูชั่นสแกนใบหน้า ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจสอบการใส่หน้ากาก 2.แทรคเกอร์ แอพพลิเคชั่น เช็คไทม์ไลน์กลุ่มเป้าหมาย เพื่อควบคุมความปลอดภัยได้ครบทุกจุด  

3.แวน เซลล์ บิซิเนส ฟอร์ นิว นอร์มอล แอพพลิเคชั่น สนับสนุนงานขายการจัดระบบรับ-ส่งสินค้า สร้างออเดอร์ผ่านระบบออนไลน์ วางเส้นทางจัดส่งเช็คสินค้าคงคลัง 4.คลาวด์ คิทเช่น ฟอร์ นิว นอร์มอล แอพพลิเคชั่นที่สนับสนุนสังคมไร้เงินสด ตอบโจทย์ธุรกิจอาหาร สอดรับออเดอร์จัดส่งในหลายรูปแบบ

"เราตั้งเป้าว่า ปี 2563 นี้จะทำรายได้ได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทว่าด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19เป็นไปได้ว่าจะทำได้น้อยกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ปีหน้าคาดว่า สถานการณ์โดยรวมน่าจะดีขึ้นอย่างมาก" มิอุระ ทิ้งท้าย