เทรดในกรอบแคบๆ รอปัจจัยเพิ่มเติม

เทรดในกรอบแคบๆ รอปัจจัยเพิ่มเติม

ปัจจัยแวดล้อมเป็นกลาง และมีเรื่องที่นักลงทุนรอติดตามอยู่หลายประการ คาดว่าตลาดหุ้นจะเทรดในกรอบแคบๆ ไปก่อน

มุมมอง SET Index วันพุธ: ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนีฯ ไซด์เวย์... หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อในช่วงเช้า (ตามคาด) หนุนโดยปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศที่เป็นบวก ก่อนเผชิญแรงขายมากขึ้นในช่วงบ่าย กดดัชนีฯ ปิดลบเล็กน้อย... ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยแวดล้อมเป็นกลาง และมีเรื่องที่นักลงทุนรอติดตามอยู่หลายประการ คาดว่าตลาดหุ้นจะเทรดในกรอบแคบๆ ไปก่อน

ปัจจัยต่างประเทศ - เป็นกลาง: i) นักลงทุนเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ COVID-19 ซ้ำ (re-infection) หลังจากเมื่อวานนี้ฮ่องกงรายงานผู้ป่วย 1 รายที่เป็น COVID-19 อีกครั้งหลังจากติดเชื้อ ไปเมื่อ 4 เดือนก่อนและรักษาหายแล้ว ประเด็นนี้อาจกระทบความเชื่อเรื่องภูมิคุ้มกันกลุ่ม (herd immunity)
ii) ตลาดการเงินชะลอกิจกรรมเพื่อติดตามการแถลงสุนทรพจน์ของประธานเฟดในการสัมมนาประจำปีที่เมือง Jackson Hole ในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป... ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะยังเด่นกว่า SET Index หลังจากราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับขึ้น 2.4% ตอบรับข่าวเฮอร์
ริเคนมาร์โคและพายุโซนร้อนลอราที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านอ่าวเม็กซิโก ได้ส่งผลบริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกปรับลดกำลังผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งแล้ว 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ปัจจัยภายในประเทศ - เป็นกลาง: i) ที่ประชุม ครม. สัญจรเมื่อวาน เห็นชอบขยายมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ (อ่านเพิ่มเติมในข่าววันนี้) ขณะที่นายกฯ ประยุทธ์ ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้ป่วยต่างชาติเดินทางเข้าสู่ไทยได้แบบมีเงื่อนไขการกักตัว
ตั้งแต่ ต.ค. 2563 เป็นต้นไป อาจเป็นอัพไซด์ต่อการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวได้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร BEM*, EA*, CPF*

- BEM* (เป้าพื้นฐาน 11.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.2 บาท / แนวต้าน 9.35 - 9.60 บาท (Stop loss 9.0 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงานฟื้นตัวแบบ V-shape ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดิน 3)Catalyst จากข่าวการประมูลโครงการรถไฟฟ้า MRT สีส้มตะวันตก i) จากการแก้ไขร่าง TOR ใหม่
(เพิ่มคะแนนด้านเทคนิค) ทำให้กลุ่ม CK* - BEM* มีโอกาสมากขึ้น  ii) กรณีแพ้ประมูลโครงการนี้ก็จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบหลักของ BEM* อยู่ดี

- EA* (เป้า Consensus 53.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 44 บาท / แนวต้านแรก 46.5 บาท หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไป 49 บาท (Stop loss 43 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2564 เริ่มรับอานิสงส์จากธุรกิจ EV (ล่าสุดส่งเรือ EV ลงแม่น้ำเจ้าพระยาทดสอบแล้ว / รถบัส EV คาดจะเริ่มทำการผลิตปี 2564 ผ่าน บ.ลูก NEX) 3) PE ปีนี้ 25.8 เท่า จะลดลงเหลือ 22 เท่าในปีหน้า (ข้อมูล Bloomberg consensus) อย่างไรก็ดีคาดมี Upside ในการปรับประมาณการฯ อีก (PE มีโอกาสถูกลงได้อีก) จากธุรกิจ EV ที่คาดว่า Consensus ยังไม่ได้รวมในประมาณการฯ

- CPF* (เป้าพื้นฐาน 39.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 33 บาท / แนวต้าน 35 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 36.5 บาท (Trailing stop 32.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H63 (โดยเฉพาะ 3Q63) จะเติบโตเด่นต่อเนื่องจาก i) ราคาเนื้อสัตว์ที่ยืนสูง โดยเฉพาะหมู ii) ต้นทุนอาหาร
สัตว์ยังต่ำต่อเนื่อง iii) การส่งออกไก่ คาดฟื้นตัวในช่วง High season + วิกฤตโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย

หุ้นมีข่าว

(+ กลุ่มโรงแรม) ที่ประชุมครม.สัญจร จังหวัดระยอง เห็นชอบปรับปรุงโครงการ เราเที่ยวด้วยกันโดยขยายสิทธิที่พักเป็น 10 คืน ต่อ 1 คน (จากเดิม 5 คืน) เพิ่มค่าตั๋วเครื่องบินสูงสุดเป็น 2,000 บาท (จากเดิม 1,000 บาท) และ ที่ประชุมครม. เห็นชอบปรับปรุงโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ขยายสิทธิ์ที่พักเป็น 10
คืน ต่อ1 คน เพิ่มค่าตั๋วเครื่องบินเป็น 2,000 บาท (Source: กรุงเทพธุรกิจ) Comment: เรามีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยต่อการปรับปรุงสิทธิดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงจูงใจในการเข้าร่วมโครงการและเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายต่อคน โดยยังคงมุมมองว่าอุตสาหกกรมท่องเที่ยวจะทยอยฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี ทั้งนี้
ERW* (N, TP Bt3.60) และ CENTEL* (OP, TP Bt32.00) จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากสุดจากข่าวดังกล่าว เนื่องจากมีรายได้โรงแรมส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย

(+) TMB* โชว์ S&P ปรับเพิ่มเครดิต-รับผลดีควบรวมแบงก์ธนชาต (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ธนาคารทหารไทย (TMB*) แจ้งว่า ธนาคารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P Global Ratings(เอสแอนด์พี) โดยเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563 เอสแอนด์พีได้
ประกาศปรับอันดับ ความน่าเชื่อถือระยะยาวของทีเอ็มบีเพิ่มขึ้น 1 อันดับจาก BBB- เป็น BBB โดยระบุว่า การรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนาคาร ธนชาต (TBANK) ส่งผลให้กลุ่มธนาคารมี Systemic Importance หรือมีความสำคัญต่อระบบการเงินในระดับสูง อีกทั้งยังสามารถดำเนินการตามแผนรวมกิจการได้ตามเป้าหมาย ทำให้คาดว่าการรวมกิจการจะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนกรกฎาคม ปี 2564 ตามแผนที่วางไว้ จึงเป็นที่มาของการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ 

(+) RATCH ปันผล 1.15 บาท เร่งปิดดีลไฟฟ้าก๊าซพม่า (ข่าวหุ้น) “ราช กรุ๊ป” เร่งปิดดีลเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซที่พม่า 100-200 MW จ่อเซ็น MOU ลงทุนโรงไฟฟ้ากวางจิ 1,320 MW ในเวียดนาม ก.ย.นี้ รอลุ้นก.พลังงานไฟเขียวรับซื้อไฟฟ้าโครงการพลังน้ำเซกอง 4A และ 4B ในลาว 340 MW ฟากบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 1.15 บาท ขึ้น XD วันที่ 3 ก.ย.นี้ และจ่ายวันที่ 23 ก.ย. 63

(+) ITEL ย้ำผลงานครึ่งปี หลังแจ่ม! ลุยประมูลงาน 3 พันล้าน คาดได้ 800 ล้าน (ข่าวหุ้น) ITEL แย้มงบครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ตุนแบ็กล็อกกว่า 4,709 ล้านบาท บุ๊กรายได้ครึ่งปีหลัง 1,129 ล้านบาท เล็งยื่นประมูลงานใหม่และรอผลประมูลงาน 3,000 ล้านบาท คาดได้งาน 800 ล้านบาท ย้ำรายได้ปีนี้เข้าเป้า 2,400 ล้านบาท

(+) SINGER ขยายสาขาปั้นรายได้ ดันบริษัทลูกิเอสจีแคปปิตอลีเข้าตลาด (ประชาชาติธุรกิจ) "ซิงเกอร์" เดินหน้าขยายสาขาพนักงานตั้งเป้ายึดหัวหาดทุกอำเภอ พร้อมเตรียมลอนช์สินค้าการเงินตัวใหม่หลังได้ใบอนุญาตพีโลน หวังปั้นพอร์ตลูกหนี้แตะ 8000 ล้านบาทใน 2 ปี ก่อนดันบริษัทย่อย "เอสจี
แคปปิตอล" เข้าตลาด