Sideway

Sideway

ตลาดหุ้นไทยวานนี้พลิกปิดปรับตัวลดลง แม้ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยในระหว่างวันดัชนีขึ้นไปบวกสูงสุดกว่า 9 จุด

อย่างไรก็ดี ดัชนีถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่ม ETRON และ COMM หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาแรงก่อนหน้านี้ โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,315.99 จุด -1.12 จุด -0.09% มูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นลบ. ต่างชาติ -126.49 ลบ. TFEX Net +7,252 สัญญา ตราสารหนี้ -5,272 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 60.02 จุด -0.21% ได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอปเปิล และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 73 เซนต์ +1.7% ปิดที่ 43.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้รับแรงหนุนจากบริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงกว่า 80% เนื่องจากกังวลผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคน

+ครม.สัญจร อนุมัติปรับเกณฑ์โครงการ"เราเที่ยวด้วยกัน" เพิ่มจำนวนวัน-เพิ่มค่าตั๋วเครื่องบิน

+/-ครม.สัญจรต่ออายุเก็บ VAT อัตรา 7% อีก 1 ปีถึงสิ้น 30 ก.ย.64

+ เริ่มงาน Thailand Focus 2020 วันแรกหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 12.06 จุด -0.36%

+ดัชนีนิกเกอิปิดเพิ่มขึ้น 311.26 จุด หรือ +1.35% เช้าเปิด -39.72 จุดจากนแรงขายทำกำไร 

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.41 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.45 บาท/US

*จับตาการประชุม ครม. ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม ประจำปีที่ เมืองแจ็คสันโฮล ฟส่วนสหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นแกว่งตัวผันผวนลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีปัจจัยบวกจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ส่วนปัจจัยกดดันหลักยังอยู่ที่ประเด็นการเมืองในประเทศเป็นหลัก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,305-1,325 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

THANI Analyst Meeting : มุมมองบวก (Bloomberg Consensus 4.75)

กำไร 1H63 มีกำไรสุทธิ 443.5 ล้านบาท -13% สินเชื่อหดตัว 4% โดยเฉพาะสินเชื่อรถบรรทุกหดตัวแรงถึง 30% จากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ %NPL อยู่ที่ 5.1% สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ระดับต่ำกว่า 5% ทั้งนี้ผู้บริหารแจ้งปรับลดเป้ารายได้จากเดิม 2.4 หมื่นล้านบาทเหลือ 1.8 หมื่นล้านบาท ส่วนการเพิ่มทุนในช่วงที่ผ่านเพื่อปรับโครงสร้างทุนให้แข็งแกร่ง และเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อระยะยาว ผู้บริหารคาดว่าการปล่อยสินเชื่อจะกลับมาเติบโตดีในช่วงปลายปีโดยเฉพาะสินเชื่อรถบรรทุกที่เป็นส่วนหนึ่งของโลจิสติกส์

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวจากการอยู่ในกลุ่ม TCAP ทั้งนี้ราคาหุ้นล่าสุดลดลง 27%YTD ซื้อขายที่ PBV 2 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 2.33 เท่า และมี yield 7.6% สูงน่าสนใจ แนะนำถือยาวรอรับเงินปันผล

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หลังธปท.ห้ามมือถือ 'รุ่นเก่า' ใช้โมบายแบงกิ้ง (COM7 SPVI JMART SIS SYNEX)
  • ครม.เพิ่มสิทธิ์ 'เราเที่ยวด้วยกัน' (ERW MINT CENTEL AAV BA)

หุ้นมีข่าว

 TCAP Analyst Meeting : มุมมองบวก(Bloomberg Consensus 40.71)

กำไร 1H63 มีกำไรสุทธิ 443.5 ล้านบาท -13% สินเชื่อหดตัว 4% โดยเฉพาะสินเชื่อรถบรรทุกหดตัวแรงถึง 30% จากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ %NPL อยู่ที่ 5.1% สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ระดับต่ำกว่า 5% ทั้งนี้ผู้บริหารแจ้งปรับลดเป้ารายได้จากเดิม 2.4 หมื่นล้านบาทเหลือ 1.8 หมื่นล้านบาท ส่วนการเพิ่มทุนในช่วงที่ผ่านเพื่อปรับโครงสร้างทุนให้แข็งแกร่ง เพิ่มสัดส่วนสินเชื่อระยะยาว และลด D/E ratio  ผู้บริหารคาดว่าการปล่อยสินเชื่อจะกลับมาเติบโตดีในช่วงปลายปีโดยเฉพาะสินเชื่อรถบรรทุกที่เป็นส่วนหนึ่งของโลจิสติกส์

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวจากการอยู่ในกลุ่ม TCAP ทั้งนี้ราคาหุ้นล่าสุดลดลง 27%YTD ซื้อขายที่ PBV 2 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 2.33 เท่า และมี yield ปกติ 7-8%  สูงน่าสนใจ (28% เฉพาะงวดล่าสุดที่มีรายการพิเศษ) แนะนำถือยาวรอรับเงินปันผล

(+) RATCH (Bloomberg Consensus 73.92 บาท) เร่งปิดดีลเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซที่พม่า 100-200 MW จ่อเซ็น MOU ลงทุนโรงไฟฟ้ากวางจิ 1,320 MW ในเวียดนาม ก.ย.นี้ รอลุ้นก.พลังงานไฟเขียวรับซื้อไฟฟ้าโครงการพลังน้ำเซกอง 4A และ 4B ในลาว 340 MW ฟากบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 1.15 บาท ขึ้น XD วันที่ 3 ก.ย.นี้ และจ่ายวันที่ 23 ก.ย. 63  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BCH (Bloomberg Consensus 17.77 บาท) ส่งซิกงบไตรมาส 3/63 จ่อทำนิวไฮรอบปีนี้ เหตุเข้าไฮซีซั่น จำนวนผู้ป่วยนอก-ผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น ลั่นครึ่งปีหลังรายได้โต 2 หลัก หลังเปิดรพ.ใหม่-เบิกจ่ายประกันสังคมเพิ่ม-รัฐอนุญาตให้ผู้ป่วยต่างชาติ/ชายแดนเข้าประเทศได้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) THAI (Bloomberg Consensus 2.28 บาท)  “ศาลล้มละลายกลางนัดฟังคำสั่งคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ-ตั้งผู้ทำแผน THAI ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ หลังวานนี้นัดไต่สวนครั้งสุดท้าย ฟาก ชาญศิลป์ยัน หากได้เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟู พร้อมดูแลผู้โดยสารและเจ้าหนี้ตามสิทธิทางกฎหมายเต็มที่ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SPA (Bloomberg Consensus 7.10 บาท)   ปฏิเสธข่าวค้างค่าเช่าที่สาขา Let’s Relax สมุย พร้อมแจงได้ทำข้อตกลงกับผู้ให้เช่าเรียบร้อยแล้ว พร้อมได้ตั้งประมาณการความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปิดดำเนินการสาขานี้ในงบการเงินไตรมาส 2/63  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SABINA (Bloomberg Consensus 21.33 บาท) เดินเกมรุกขายออนไลน์ครึ่งปีหลัง ดันสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 15% ในปีนี้หลังโควิด-ดันยอดขายครึ่งปีแรกดีเกินเป้า ปลื้มได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ให้เป็น 1 ใน 200 บริษัทมหาชนที่มีรายได้ต่ำกว่าพันล้านดอลลาร์ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2020  (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ILINK (Bloomberg Consensus 6.25 บาท)  แตกไลน์ธุรกิจใหม่ "เมดิคัล แอนด์ เทคโนโลยี" ปูทางรับทรัพย์เพิ่ม พ่วงปรับโมเดลรับงานวิศวกรรมที่มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อสร้างผลกำไร แถมส่งซิกครึ่งหลังปี 2563 ฟอร์มแจ่ม งานเรียงคิวเพียบ ส่วนปี 2563 ย้ำรายได้โตตามฝัน 5.95 พันล้านบาท รับธุรกิจทุกไลน์โตต่อเนื่อง ด้านโบรกเกอร์ฟันธง Q3/2563 ผลงานไฉไลต่อ เชียร์สอย เคาะเป้าหมาย 6.25 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GFPT (Bloomberg Consensus 14.57 บาท) โชว์สตอรีรับทรัพย์ เข้าสู่ไฮซีซันการส่งออก หนุนยอดขายช่วงครึ่งหลังของปี 2563 เฉลี่ย 6.5-6.7 พันตันต่อไตรมาส ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ทรงตัวระดับต่ำ เร่งติดตั้งเครื่องจักรใหม่โรงงานสินค้าปรุงสุกแปรรูป มั่นใจเสร็จทันรองรับความต้องการในช่วงครึ่งหลังปีหน้า ด้านโบรกเคาะ "ซื้อ" เป้า 15.60 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DRT (Bloomberg Consensus 5.50 บาทเผยไตรมาส 4/2563 เข้าไฮซีซัน ดีมานด์ภาคเอกชนฟื้นแรงหนุนยอดพุ่ง เดินหน้าบุกโมเดิร์นเทรด พร้อมขยายช่องทางการขายเพิ่มเติมตามแผน ขณะที่สายการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ NT-11 คาดแล้วเสร็จไตรมาส 4/2563 นี้ ดันกำลังผลิตเพิ่ม 5.5 หมื่นตัน (ที่มา ทันหุ้น)