'เสรีพิศุทธ์' ซัดอ้างสถาบันหากินซื้อเรือดำน้ำ ชี้ทุกอย่างมีค่าคอมมิชชั่น

"เสรีพิศุทธ์" ซัด อ้างสถาบันหากินซื้อเรือดำน้ำ ชี้ ทุกอย่างมีค่าคอมมิชชั่น ลั่น ไม่เชื่อประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุน เพราะเป็นพรรคที่ชอบสร้างภาพ

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 63 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤกติมิชอบ กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีมี ส.ส.ตบทรัพย์ในชั้นอนุกรรมาธิการ ว่า เรื่องนี้ได้รับหนังสือจากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องนี้ ที่จริงแล้วเรื่องนี้ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.แต่คนที่ไม่รู้ก็เอาไปดำเนินการก็ปล่อยไป แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร คงเห็นว่าไม่ใช่หน้าที่ของคณะนั้นจึงส่งมาให้ตน โดยเรื่องนี้จะบรรจุเข้าวาระการประชุมในวันที่ 16 ก.ย. 63 เนื่องจากหากบรรจุกระชั้นชิดมาก เชิญผู้มาชี้แจงข้อเท็จจริงจะมาไม่ทัน ดังนั้นจึงต้องจัดเวลาไว้ล่วงหน้า และถือว่าไม่เป็นการล่าช้า เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ยาก เพียงแต่ดูว่า ส.ส.ที่ตบทรัพย์เป็น ส.ส.จากพรรคใด ก็จะไม่ให้พรรคนั้นเข้ามาร่วม จะเกิดความเป็นธรรมมากกว่า และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ว่าร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 จะผ่านไปแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ทราบว่าเรื่องนี้มีฝ่ายกองทัพเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการโกงกินชาติซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามา 6-7 ปีแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้ กลับไปสนับสนุนการปล้นชาติโกงชาติ

“เรื่องเรือดำน้ำก็เหมือนกัน เสด็จพ่อ ร.9 ก็มีพระราชดำรัสไว้แล้วว่ามันไม่ควรซื้อ แต่พอท่านประชวรก็เอาเลย พวกนี้มันรักสถาบันแต่ปาก มันไม่รักของจริงหรอก เอาสถาบันมาอ้างอิง มาหากินกัน หาแดกกัน นะครับ เพราะฉะนั้นเรือดำน้ำลำแรกผ่านไปก็ไอ้พวกเนี้ย ชุดเนี้ย หากินหาแดกกันทั้งนั้น” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวต่อว่า การซื้อเรือดำน้ำ ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อเรือดำน้ำแล้วก็จบ แต่จะต้องมีกองเรือและกำลังเพิ่มเติมอีก รวมถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ประจำเรือ และยังต้องมีเรือคุ้มกันเรือดำน้ำ มันมากเกินไป และเมื่อกำหนดงบประมาณมาแล้วไม่ให้ก็อ้างไม่ได้อีก เพราะในเมื่อซื้อเรือมาแล้วและลำแรกไป และเรื่องนี้ตนก็เคยให้สัมภาษณ์เมื่อ 10 พฤษภาคม 2560 ก็ไม่สนใจ ตนจึงบอก นพ.เรวัต วิศรุตเวช อนุกรรมาธิการเรื่องนี้ให้ไปคัดค้านให้สำเร็จ แต่ก็เกือบจะสำเร็จ เสียงมัน4ต่อ4 แต่ประธานอนุเป็นพรรครัฐบาลพอดีก็เลยโหวตเอาไป ทั้งนี้เชื่อว่าเรื่องนี้ ส.ส.ในสภาคงจะไม่ยอม แต่หากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยยอมให้เรือดำน้ำผ่านประชาชนก็อย่าไปเลือกอีกเลย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์แถลงจะไม่สนับสนุนงบเรือดำน้ำในชั้น กมธ. ว่า ไม่ค่อยเชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เดี๋ยว ส.ส.ตัวเองก็ออกมาให้ผ่าน แล้วพรรคก็มาสร้างภาพ พรรคนี้ชอบสร้างภาพ ดังนั้นให้มันไม่ผ่านไปก่อนแล้วค่อยมาคุย แต่แค่พูดอย่างนี้ เราไม่เชื่อ และเรื่องนี้เชื่อว่ากองทัพเรือคงไม่ถอน เพราะทุกอย่างมีค่าคอมมิชชั่นหมด ซื้ออะไรก็มีค่าคอมมิชชั่น อย่ามาพูดเพียงแค่เรือดำน้ำเลย อย่ามาปกปิด ประชาชนตาสีตาสาอาจจะไม่รู้ แต่นักการเมืองและข้าราชการระดับสูงทุกกระทรวงรู้กันหมดพลเอกประยุทธ์ก็รู้ แล้วพลเอกประยุทธ์ให้งบเรือดำน้ำผ่านมาได้อย่างไร เพราะงบจะเข้าสภาได้ต้องผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะบอกไม่รู้เรื่อง หัดมีความรับผิดชอบบ้าง แล้วซื้อเรือดำน้ำ 22,500 ล้านบาท สามารถนำไปซื้ออย่างอื่นให้ประชาชนได้อีกมากมาย และขณะนี้ประชาชนกำลังอดอยาก ไม่มีจะกิน ตกงาน ดังนั้นไม่เหมาะสมที่จะมาซื้อ ก็ฝาก ส.ส.คน ทั้งพรรคพลังประชารัฐก็กลับใจให้มาไม่สนับสนุนให้งบประมาณนี้ตกไปให้ได้