แกรมมี่ อาศัยพลังพันธมิตร เสริมทัพรายได้ธุรกิจเพลงดิจิทัล

แกรมมี่ อาศัยพลังพันธมิตร  เสริมทัพรายได้ธุรกิจเพลงดิจิทัล

โควิด ไม่กระทบคนฟังเพลง ตลาดดิจิทัลยังโตต่อเนื่อง แกรมมี่ เดินหน้าผนึกพันธมิตร “เทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป” เจาะตลาดแดนมังกร ปั๊มรายได้

นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงโรคโควิด-19 ระบาด และประเทศไทยมีการล็อกดาวน์ ส่งผลกระทบให้ธุรกิจโชว์บิส งานแสดง โชว์ตัวของศิลปินได้รับกระทบพอสมควร โดยโชว์บิสเดิมจะจัด 30-40 งาน ต้องลดลง ส่วนงานโชว์ของศิลปินตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ต่างๆ ที่มีมากถึง 6,000-7,000 งานต่อปี หดตัวลงไม่ต่ำกว่า 70% แต่การจัดกรรมเริ่มกลับมาแล้ว อย่างโชว์บิส คอนเสิร์ต เฟสติวัลต่างๆจะจัดหลักสิบงานในช่วงไตรมาส 4

  ทั้งนี้ ผลพวงจากโควิด บริษัทไม่ต้องปรับตัวมากนัก แต่โฟกัสการทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะมองโอกาสการฟื้นตัวจาก 2 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การพึ่งพาเศรษฐิจท้องถิ่นหรือโลคัล อีโคโนมี ซึ่งธุรกิจที่พึ่งพาตลาดในประเทศยังคงขยายตัวได้ และต้องมองสถานสถานการณ์ให้เฉียบขาด และการบริโภคภายในครัวเรือน เช่น การร้องคาราโอเกะภายในบ้าน แทนออกไปนอกบ้าน ซึ่งผู้บริโภคบางส่วนอาจกังวลความปลอดภัยด้านสุขภาพ การฟังเพลงผ่านดิจิทัลยังคงเติบโต และมีมูลค่าหลักพันล้านบาทบริษัทจึงมอบนโยบายให้ทีมงานลุยตลาดดังกล่าว

“โรคโควิด-19ไม่ได้เป็นปัจจัยเร่งให้เราต้องทำอะไรเร็วขึ้น แต่ทำให้รอบคอบมากขึ้น และพิจารณาโครงสร้างองค์ธุรกิจ โครงสร้างธุรกิจว่าเหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่ แต่ยอมรับว่าไวรัสดังกล่าวทำให้เราเปลี่ยนความสามารถที่อาจจะชะลอ และส่งเสริมสิ่งที่จะมีบทบาทในอนาคต เช่น ศิลปินต้องปรับตัวสื่อสารสร้างเอนเกจเมนต์กับแฟนคลับมากขึ้น ทุกหน่วยธุรกิจต้องสื่อสาร สำรวจความต้องการผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อให้รู้ว่าเงินในกระเป๋าตอนนี้มีมากน้อยเพียงใด สินค้าแบบไหนจะตอบโจทย์ความต้องการ”

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้กับธุรกิจเพลงผ่านดิจิทัลมากขึ้น ล่าสุด จีเอ็มเอ็มมิวสิค ได้ร่วมมือกับเทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป(ทีเอ็มอี) ผู้นำบริการแพลตฟอร์มบันเทิงยักษ์ใหญ่จากจีน ในการเสิร์ฟเพลงแก่ผู้บริโภคชาวจีนผ่าน 4 แพลตฟอรืม ได้แก่ QQ Music, KuGou Music, Kuwo Music และ WeSing ซึ่งมีผู้ใช้บริการกว่า 800 ล้านคน

“เรามองเห็นโอกาสในฐานะที่โครงสร้างพื้นฐานธุรกิจเพลงมีความแข็งแกรงมาก ประกอบกับสินทรัพย์ที่มีอยู่มาก ทั้งศิลปิน เพลงฮิต ผลิตคอนเทนท์เพลงออกมาต่อเนื่อง การมีพันธมิตรที่มีศักยภาพช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเพลง ทำให้ธุรกิจดิจิทัลของเราเติบโตและมีมูลค่าเพิ่ม ขณะที่การจับมือเทนเซ็นต์มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่เป็นแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์หรือสตรีมมิ่งใหญ่สุดของจีน จะทำให้เราสามารถผลักดันเพลงไทยในตลาดเพลงของจีนได้มากขึ้น และ ก้าวต่อไปมองการร่วมมือทำการตลาดที่แข็งแรงกว่าเดิม”