ลงทุนยังเน้นหุ้นมั่นคง ขณะที่เก็งกำไรอาจเลือกกำหนดจุดตัดขาดทุนในกลุ่มสายการบิน

ลงทุนยังเน้นหุ้นมั่นคง ขณะที่เก็งกำไรอาจเลือกกำหนดจุดตัดขาดทุนในกลุ่มสายการบิน

ความคืบหน้าในการรักษาโรคโควิด-19 เป็นจิตวิทยาบวกต่อการลงทุน

หุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นจากรายงานข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวิธีการรักษาโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติให้ใช้พลาสมาที่มีโปรตีนภูมิคุ้มกัน (convalescent plasma) ในการรักษาผู้ป่วย รวมถึงรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งมุมมองดังกล่าวทำให้หุ้นในกลุ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยว, สายการบิน, เรือสำราญ ปรับตัวขึ้นค่อนข้างโดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม

ส่งออกก.ค. -11.37% ดีกว่าที่ตลาดคาด -18.72% ขณะที่นำเข้า -26.38% เกินดุลการค้า 3,343 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภาพรวมทั้งปีนำเข้า -7.72% ขณะที่ส่งออก -14.69% โดยกระทรวงพาณิชย์คาดทั้งปีการส่งออกจะติดลบ 8-9% ทั้งนี้กลุ่มที่มีสัญญาณบวกจากการส่งออกได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง (ถุงมือยาง และผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม), อาหาร (ทูน่ากระป๋อง น้ำมันปาล์ม), อิเล็กทรอนิกส์ (อุปกรณ์กึ่งตัวนำ) ซึ่งหุ้นที่ได้ประโยชน์ได้แก่ STA, STGT, TU, CPF, TFG, GFPT, HANA, DELTA อย่างไรก็ตามกลุ่มถุงมือยางอาจมีแรงทำกำไรช่วงสั้นจากข่าวดีเรื่องวิธีการรักษาโควิด ทำให้การเก็งกำไรเน้นซื้อเมื่ออ่อนตัว (มองกรอบ STGT ที่ PER 20-30x ที่ 63-94 บาท ต่ำ 70 น่าสนใจ)

ลงทุนยังคงเน้นหุ้นปลอดภัย เก็งกำไรอาจเลือกกลุ่มกระทบหนักจากโควิด เราคาด SET Index มีโอกาสฟื้นระยะสั้นหลังปรับลดลงแรงติดต่อกันหลายวัน อย่างไรก็ตามยังคาดอยู่ในภาพของการปรับตัวในระดับ 50-100 จุด (ของรอบนี้ นับจาก 13 ส.ค.) โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1260-1280 จุด ขณะที่แนวต้าน 1327 จุด ในช่วง 3-5 สัปดาห์ข้างหน้า กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้นจึงเน้นในกลุ่มหุ้นปลอดภัย อาทิ สื่อสาร และหุ้นที่มีปันผลสูง อาทิ กองทุนโคงสร้างพื้นฐานและกองรีทส์ หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน หุ้นที่เราชอบได้แก่ CPF, TU, TIP, THRE, ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF, SUPEREIF, BTSGIF, BCH, CHG, WHAUP, EASTW / หุ้นที่มีปัจจัยบวก กลุ่มที่ถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี FTSE Thailand สำหรับผู้เก็งกำไร อาจเลือกเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด ซึ่งหุ้น Laggard ที่น่าสนใจ มอง AAV*, BA*, SPF*

ภาพรวมกลยุทธ์ ฟื้นตัวทางเทคนิคระยะสั้น แนวต้าน 1327 จุด โดยการเก็งกำไรยังควรระวังความผันผวนระยะสั้นจากทิศทางค่าเงินสหรัฐฯ ที่มีโอกาสแข็งค่าขึ้น // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPF, TU, CRC*, AAV*

แนวรับ 1,306 จุด / แนวต้าน : 1,327-1,355 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

เลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ – พรรครีพับลิกันประกาศเสนอชื่อปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เป็นตัวแทนของพรรคเข้าชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ โดยปธน.ทรัมป์จะกล่าวสุนทรพจน์ในคืนวันพฤหัส

เจรจาการค้า – หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน หารือทางโทรศัพท์กับโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) และสตีเฟน มนูชิน รมว.คลัง โดยมีความเห็นตรงกันว่าข้อตกลงการค้าเฟสแรกดำเนินไปด้วยดี ซึ่งน่าจะช่วยลดความกังวลต่อความตึงเครียด

172 ประเทศเข้าร่วมโครงการ COVAX –ประเทศต่างๆทั่วโลกจำนวน 172 ประเทศเข้าร่วมโครงการ COVAX ของ WHO ในการระดมเงินทุนเพื่อจัดซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 พร้อมระบุว่า ขณะนี้มีวัคซีน 9 ตัวในโครงการ COVAX ของ WHO กำลังประเมินวัคซีนที่อาจมีเพิ่มในโครงการอีก 9 ตัว

WHO เตือนพลาสมารักษาโควิดประสิทธิภาพยังต่ำ WHO เตือน การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ผ่านการใช้พลาสมายังคงมีประสิทธิภาพต่ำ โดยจากผลการทดลองในคลินิกพบว่าการใช้พลาสมาประสบความสำเร็จเพียงไม่กี่ครั้งและเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง พร้อมระบุยังไม่เหมาะสมต่อการใช้รักษาในวงกว้าง

จีนนำเข้าเนื้อหมูพุ่ง 136% ในเดือนก.ค. GAC รายงานว่า จีนทำสถิตินำเข้าเนื้อหมูมากถึง 430,000 ตันในเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 136% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเป็นสถิตินำเข้าต่อเดือนมากที่สุด แม้มีมาตรการคุมเข้มของด่านศุลกากรเพื่อสกัดเชื้อไวรัสโควิด-19

ประเด็นติดตาม: 26 ส.ค. – TH Industrial Production / 27 ส.ค. – FED Annual meeting, US GDP 2Q20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)