‘ทีเอชเอ’วอนเปิดรับต่างชาติ หวั่นโรงแรมปิดกิจการรอบใหม่

‘ทีเอชเอ’วอนเปิดรับต่างชาติ  หวั่นโรงแรมปิดกิจการรอบใหม่

“ทีเอชเอ” หวั่นโรงแรม ปิดบริการรอบใหม่เซ่นพิษโควิด วอนรัฐเร่งเปิดประเทศพยุงธุรกิจท่องเที่ยว ด้าน “พิพัฒน์” ย้ำ “ภูเก็ตโมเดล” ต้นแบบอิมพอร์ตทัวริสต์ ตั้งเป้า 6 เดือน 1 ต.ค.63-31 มี.ค.64 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่ม 2 ล้านคน

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลเร่งเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยการเลือกเจรจาแบบประเทศต่อประเทศหรือเมืองต่อเมือง เนื่องจากขณะนี้ไม่มีดีมานด์เข้ามาขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจโรงแรมกำลังจะปิดกิจการชั่วคราวอีกครั้ง (Re-close) โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็ก ที่ทยอยกลับมาเปิดให้บริการได้ไม่นาน เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

“ทีเอชเอกังวลว่าหากรัฐยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในเร็วๆ นี้ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมเล็ก จึงอยากให้เร่งดำเนินการ ก่อนที่จะเกิดปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ตามมา เพราะในช่วง 3-6 เดือนจากนี้น่าจะเป็นระยะเวลาที่ผู้ประกอบการต่างพยุงธุรกิจกันแบบสุดๆ แล้ว หากเกินกว่านี้อาจจะอั้นต่อไปไม่ไหว และอาจเห็นภาพนักลงทุนต่างชาติจ้องซื้อกิจการโรงแรมของคนไทยหลังจากนั้น”

นอกจากนี้ธุรกิจโรงแรมยังประสบปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ เนื่องจากธนาคารมีเงื่อนไขค่อนข้างมาก จึงได้ร่วมเสนอแนวคิดขอให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือ และเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติคนไทยที่มีต่อชาวต่างชาติให้กลับมาเป็นบวก

ก่อนหน้านี้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าการประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) หรือ ศบค. สัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้หารือถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยเสนอให้มีการนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัดพื้นที่ 14 วัน นำร่องที่ จ.ภูเก็ต 

โดยนายกฯ สั่งการให้ศึกษาเรื่องนี้ และสำรวจความพร้อมของชุมชนในพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ ได้แก่ ภาคเหนือ เชียงใหม่ และเชียงราย, ภาคอีสาน อุบลราชธานี และอุดรธานี,ภาคตะวันออก อาจเป็นจันทบุรี ตราด ระยอง และชลบุรี, ภาคตะวันตก กาญจนบุรี และราชบุรี,ภาคใต้ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และกระบี่ ส่วนภาคกลางคือกรุงเทพฯ

และหลังจากเริ่มภูเก็ตโมเดลแล้ว จะขยายไปยังภาคอื่นๆ ตั้งเป้าหมายมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 2 ล้านคน ในช่วง 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563-31 มี.ค.2564