'อนุสรณ์' ชี้ หากไม่ซื้อ 'เรือดำน้ำ' เยียวยาโควิดได้เพิ่ม 1.5 ล้านคน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน ในคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ผ่านงบฯจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะท่องคาถาไม่เกี่ยว ลอยตัวหนีปัญหา โบ้ยเป็นความผิดของกองทัพไม่ได้ เพราะทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เต็ม ๆ

นายอนุสรณ์ ชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจมา 6-7 ปี ไม่เคยไว้ใจใคร มองไปข้างหลังทีมเศรษฐกิจก็ถูกบูชายัญไปทีละคนสองคน จนแทบไม่มีใครกล้าเข้ามา เลยคิดจากกรอบทหารโบราณ ที่มาบริหารรัฐกิจ เห็นได้จากการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน 7 ปี กว่า 20 ล้านล้านบาท ถูกใช้ไปกับการจัดซื้ออาวุธจำนวนมาก ในวันที่ประเทศชาติเจอวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก เรือดำน้ำ ไม่ใช่ทางออกของประเทศ

สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนที่สุดในเวลานี้คือ ปัญหาการเยียวยาปากท้องของพี่น้องประชาชน ถ้าไม่ซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ 22,500 ล้านบาท สามารถแจกเงินเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน 15,000 บาท ได้เพิ่ม 1,500,000 คน หรือนำไปลงทุนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ได้มาก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม คนไทย ถึงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกองทัพโดยเร่งด่วน

“คิดแบบประยุทธ์โนมิกส์ คือคิดแบบทหารโบราณมาบริหารรัฐกิจ เรือดำน้ำ ไม่สามารถกระตุ้นการบริโภคภายใน ไม่สามารถเยียวยาแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชนได้” นายอนุสรณ์ กล่าว