รีบาวด์

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ รีบาวด์ แนวต้าน 1303 / 1310 จุด แนวรับ 1288 / 1280 จุด ทางเทคนิค ดัชนีฯ เปลี่ยนเป็นทิศทางขาลง โดยมีเป้าหมายที่ 1250 จุด (รูปแบบลงสลับรีบาวด์) ปัจจัยบวก คือ รายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน ส.ค. ของญี่ปุ่น อียู UK USA คาดปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และข่าวผลตรวจรอบสองของหญิงจังหวัดเลย พบว่าเป็นเพียงซากเชื้อ

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

       1) โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยผลตรวจล่าสุดของหญิงไทยที่จังหวัดเลย พบว่าเป็นซากเชื้อ แต่ยังคงติดตามอาการ เพื่อความมั่นใจของสังคม (+กลุ่ม Vaccine Plays)

       2) ลุ้นรายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน ส.ค. ของกลุ่มประเทศ G-4 วันนี้ ช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (+กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์)

       3) ผลกระทบจากไทย พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ครั้งแรกในรอบ 87 วัน คาดฟื้นตัวได้ในสัปดาห์ที่ 2-3 อิงกรณีเวียดนาม (เก็งกำไรเมื่ออ่อนตัวกลุ่มท่องเที่ยว)

       4) จีนกับสหรัฐฯ จะกลับมาเจรจาทบทวน Phase one deal อีกครั้งในเร็วๆ นี้ (กระทบต่อ กลุ่ม Commodity Plays)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ รายงานภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือน ส.ค.-ของ Japan (Jibun Bank) อยู่ที่ 49 และ 51 (Vs เดือน ก.ค.45.2 และ 45.2), ของอียู (Markit) อยู่ที่ 52.9 และ 54.5 (Vs เดือน ก.ค. 51.8 และ 54.7), UK (Markit) อยู่ที่ 53.8 และ 57 (Vs เดือน ก.ค. 53.3 และ 56.5), USA (Markit) อยู่ที่ 51.9 และ 51 (Vs เดือน ก.ค. 50.9 และ 50) / USA-ยอดขายบ้านเดิม เดือน ก.ค. คาด +14.7% MoM (Vs เดือน มิ.ย. 20.7%)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยร่วงลงตามภูมิภาคและยืนในแดนลบตลอดการซื้อขายกรอบ 1293-1303 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1296.79 จุด –11.88 จุด -0.91% วอลุ่มลดลงเป็น 4.9 หมื่นล้านบาท กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -1.86% ธนาคาร -1.81% โดยหุ้นบวก >4% HANA JMT NER DOD BWG ASIAN IIG AS TRUBB CFRESH ส่วนหุ้นร่วง >4% GPSC TQM TFG SEAFCO

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวก ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัว หลังจากร่วงติดลบในช่วงแรกของการซื้อขาย DJ +0.17% S&P500 +0.32% Nasdaq +1.06% จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี FAANG ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ DAX -1.14% CAC40 -1.33% FTSE -1.61% เพราะวิตกเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวและการร่วงแรงของหุ้นกลุ่มธนาคาร Deutsche Bank กลุ่มยานยนต์ Continental

- น้ำมันดิบและทองคำปิดลบ: Brent -47 เซนต์ ปิดที่ USD 44.90/บาร์เรล WTI -35 เซนต์ ปิด USD42.58/บาร์เรล หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก รายสัปดาห์ออกมาสูงกว่าคาด ส่วนทองคำร่วงต่อเนื่อง -USD23.80 หรือ -1.21% ปิดที่ USD1,946.50/ออนซ์ หลังจากประธานเฟดหลายคนออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการออกมาตรการการเงินเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ

ประเด็นสำคัญ

+/- การเมือง: พรรคเพื่อไทยเข้าชื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติไม่ไว้วางใจ ตามรธน. มาตรา 152 ต่อประธานสภา เพื่อขอเปิดประชุมสภาฯ หารือและให้คำแนะนาเกี่ยวกับการแก้วิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลกระทบจาก COVID-19 และวิกฤติการเมืองต่อนายกรัฐมนตรี โดยคาดว่าจะเปิดหารือในช่วงกลางเดือน ก.ย.

+ ไทย: ผอ. โรงพยาบาลรามาธิบดี แถลงเย็นวานนี้ว่าผลตรวจหญิงไทยเคสที่ 2 จังหวัดเลย พบเพียงส่วนเชื้อพันธุกรรมไวรัส COVID-19 ในปริมาณที่น้อย (ซากเชื้อ) ซึ่งทีมแพทย์มั่นใจว่าเป็นแค่ส่วนของไวรัส

+ USA: J&J จะเป็นรายที่ 3 ต่อจาก Moderna และ Pfizer ที่เริ่มทดสอบเฟส 3 ในเดือน ก.ย. ต่อผู้ทดสอบ 6 หมื่นราย ในสถานที่ 180 แห่ง

+ กลุ่มยานยนต์: สอท. เผยยอดส่งออกรถยนต์เดือน ก.ค. อยู่ที่ 4.95 หมื่นคัน -39.67% YoY ยอดขายในประเทศเดือน ก.ค. มีจานวน 5.93 หมื่นคัน -24.8% YoY ส่วนยอดการผลิตรถยนต์เดือน ก.ค. อยู่ที่ 8.93 หมื่นคัน -47.7% YoY แต่หากเทียบรายเดือน พบว่ามีสัญญาณดีขึ้น MoM (+กลุ่มยานยนต์ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป)

+/- US/China: กระทรวงพาณิชย์จีน เผยว่าจีนและสหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะจัดการเจรจากันทางโทรศัพท์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อประเมินความคืบหน้าของข้อตกลงด้านการค้าและเศรษฐกิจเฟสแรก หลังจากเลื่อนจากกำหนดเดิมในวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา เพราะประธานาธิบดีทรัมป์ไม่พอใจจีนในประเด็นการแพร่ระบาดของ COVID-19

+ Russia: รัสเซียจะเริ่มการทดลองวัคซีนเฟส 3 สัปดาห์หน้า โดยมีอาสาสมัครในโครงการกว่า 4 หมื่นราย ในศูนย์การแพทย์กว่า 45 แห่ง ทั่วรัสเซีย ขณะที่มีคำสั่งซื้อจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกราว 1 พันล้านโดส

แนะนำ เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BEM PSL MINT

หุ้นแนะนำเก็งกำไรวันนี้: AOT TU PTL PTT PTTGC MINT M HANA

Derivatives: รอเปิด Short S50U20 เมื่อดีดตัว (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)