นายกฯ มุ่งลดขัดแย้ง มั่นใจการพูดคุยช่วยให้ 'หันหน้าเข้าหากัน'

นายกฯ มุ่งลดขัดแย้ง มั่นใจการพูดคุยช่วยให้ 'หันหน้าเข้าหากัน'

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ มุ่งลดความขัดแย้ง ให้สังคม "หันหน้าเข้าหากัน" แทนที่จะ "เผชิญหน้ากัน" พร้อมเปิดเผยกำหนดการประชุม ครม. สัญจร จ. ระยอง-จันทบุรี สัปดาห์หน้า

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 63 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี โดยการแก้ไขรัฐธรรมอยู่ระหว่างการหารือกันในรัฐสภา ซึ่งคณะกรรมาธิการที่รับผิดชอบ จะรายงานผลสรุปของการพิจารณาโดยเร็ว เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์มากที่สุด เพราะกรรมาธิการก็เป็นผู้แทนของประชาชน ในส่วนของนายกรัฐมนตรีนั้นตั้งใจที่จะลดความขัดแย้งให้มากที่สุด ทุกอย่างจะผ่านกลไกการพูดคุย ทั้งในสภาและนอกสภา ซึ่งจะทำให้สังคม “หันหน้าเข้าหากัน” แทนที่จะ “เผชิญหน้ากัน”

นายอนุชา เปิดเผยถึงภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในสัปดาห์หน้า ว่า ประกอบด้วยการเข้าร่วมประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 3 (Mekong-Lancang Cooperation: MLC) ผ่านระบบการประชุมทางไกล และการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดระยองและจังหวัดจันทบุรี พร้อมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2563 ณ จังหวัดระยอง ระหว่าง 24 - 25 สิงหาคม 2563

ทั้งนี้ การประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 3 เป็นการประชุมที่พัฒนามาจากข้อริเริ่มของไทยเมื่อปี 2555 ที่ต้องการส่งเสริมความร่วมมือในอนุภูมิภาคให้เข้มแข็ง ซึ่งเช้าวันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม นี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 3 ร่วมกับผู้นำ 6 ประเทศสมาชิก ประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย และจีน ภายใต้หัวข้อ “การยกระดับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” โดยนายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้ย้ำเจตนารมณ์ความร่วมมือในกลุ่มประเทศสมาชิกแม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน พร้อมนำเสนอ 4 ประเด็นสำคัญ คือ การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง การยกระดับความร่วมมือด้านสาธารณสุข ความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาค รวมทั้งการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 (Post Covid-19 Economic Recovery) ด้วย

เมื่อเสร็จสิ้นการประชุม ช่วงสาย พล.อ.ประยุทธ์ และคณะเตรียมเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดระยองและจังหวัดจันทบุรี พร้อมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2563 ณ จังหวัดระยอง ระหว่าง 24-25 สิงหาคม 2563 เพื่อเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว ส่งเสริมการลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเกษตรปลอดภัย โดยจะตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองผู้โดยสาร ณ อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และเป็นประธานเปิดให้บริการทางหลวงระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด เยี่ยมชมตลาดสินค้าครบวงจร เทศบาลบ้านเพ (ตลาด 100 เสา) พบปะตัวแทนผู้ประกอบการการท่องเที่ยว และเยี่ยมชมวิถีกลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้านสวนสน - แกลง 1

โดยในวันอังคารที่ 25 สิงหาคม ช่วงเช้าจะประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง) และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2563 ณ โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น พร้อมเป็นสักขีพยานในมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำ กินให้ชุมชนให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและผู้ว่าราชการจังหวัดระยองด้วย

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น จะตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการนำร่องการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัย ทางถนน (Kick off) ณ ทางหลวงหมายเลข 3249 และชมการสาธิตการติดตั้งกำแพงคอนกรีตหุ้มแผ่นยางพารา (Rubber Fender Barrier : RFB) ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงเย็นวันเดียวกัน