ขึ้นจำกัด

ขึ้นจำกัด

เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ขึ้นจำกัด แนวต้าน 1316 / 1325 จุด แนวรับ 1300 / 1288 จุด ทางเทคนิค ดัชนีฯ มีโอกาสร่วงลงไปที่บริเวณ 1250 จุด หากดัชนีฯ ร่วงหลุดแนวรับจิตวิทยา 1300 จุด ปัจจัยที่ต้องจับตา คือ หญิงไทยที่พบว่าติดเชื้อ COVID-19 ใหม่ จะเป็นเพียงซากเชื้อที่ทำให้ไม่มีโอกาสแพร่เชื้อหรือไม่ โดยอยู่ในระยะเวลาจับตา 1-2 สัปดาห์

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้

     1) ศบค. แถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สองรายใหม่ หลังพ้นระยะกักตัว โดยหนึ่งรายอยู่ในระยะจับตา แม้มีโอกาสสูงที่จะเป็นเพียงซากเชื้อ

     2) ที่ประชุมศบศ. มีมติเห็นชอบการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มและแก้ไขปัญหาSME ก่อนเสนอครม. สัปดาห์หน้า (+กลุ่ม Government Related Policy)

    3) ศบค. ชุดเล็ก เสนอต่อพ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน เป็นสิ้นเดือน ก.ย. 4) FOMC Minute ส่งสัญญาณเตือนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความเสี่ยง

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ Earnings-Alibaba / USA-สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก และรายงาน Weekly Initial Jobless Claims คาด 925k (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า 963k) / China-อัตราดอกเบี้ย Prime Rate 1 ปี และ 5 ปี คาดคงดอกเบี้ยที่ 3.85% และ 4.65%

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดร่วงแรง: ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงลงไปต่ำสุดที่ 1301.97 จุด -28.14 จุด ก่อนขึ้นมาปิดตลาดที่ 1308.67 จุด -21.44 จุด -1.61% วอลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 5.73 หมื่นล้านบาท กลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง -3.62% ขนส่งและโลจิสติกส์ -2.99% การแพทย์ (โรงพยาบาล) -2.33% โดยหุ้นบวก >4% STGT TQM AUCT AS TITLE ASP MGT SPACK ส่วนหุ้นร่วง >4% ETC MINT SUPER DTAC SAWAD NER STEC MORE CK BWG CFRESH IIG AJ

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดลบ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ DJ -0.31% S&P500 -0.44% Nasdaq -0.57% หลังจาก FOMC Minute ส่งสัญญาณว่า การระบาดอย่างหนักของ COVID-19 จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และเงินเฟ้อในระยะสั้น ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างมากต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะปานกลาง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดบวก DAX +0.74% CAC40 +0.79% FTSE +0.58% นำขึ้นโดยกลุ่มสายการบิน หลังมีข่าวว่า UK กำลังหามาตรการลดการกักกันผู้เดินทางเข้าประเทศ

- น้ำมันดิบปิดคละ แต่ทองปิดร่วงแรง: น้ำมันดิบปิดผสมผสาน Brent -9 เซนต์ ปิดที่ USD45.37/บาร์เรล WTI +4 เซนต์ ปิด USD42.93/บาร์เรล เนื่องจากความไม่แน่นอนของหลายปัจจัยเศรษฐกิจที่กระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน แม้ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบน้อยกว่าคาดการณ์ (ลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล Vs คาดลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล) ส่วนทองคำกลับมาร่วงแรง -USD42.80 หรือ -2.13% ปิดที่ USD1,970.30/ออนซ์ จากการกลับมาแข็งค่าของ USD

ประเด็นสำคัญ

+ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ: ศบศ. มีมติผลักดัน 4 มาตรการ คือ กระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งเสริมการจ้างงาน กระตุ้นการจ่าย สนับสนุน SMEs

- COVID-19: อธิบดีกรมควบคุมโรคและโฆษกศบค. เผยว่า โรงพยาบาลรามาธิบดีพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 ราย ซึ่งไม่แสดงอาการ โดยรายแรกพบว่าเป็น ซากเชื้อ ไม่สามารถแพร่ระบาดเชื้อ ส่วนรายที่สองมีลักษณะคล้ายกันรายแรก แต่ต้องเฝ้าดูอาการ 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ เชื่อว่าโอกาสที่จะเป็นการติดเชื้อในประเทศน้อยมาก

- US/China: ประธานาธิบดีทรัมป์ เผยเขายกเลิกการเจรจาการค้ากับจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและไม่ต้องการหารือกับจีนในขณะนี้ ความเห็นนี้ทำให้เกิดความสงสัยเกี่ยวกับอนาคตของข้อตกลงการค้าเฟส 1 และเสี่ยงที่จะทำให้สงครามภาษีกลับมาส่งผลกระทบต่อการค้าและบริษัททั่วโลกอีกครั้ง

- FOMC Minute: ส่งสัญญาณว่า การระบาดอย่างหนักของ COVID-19 จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และเงินเฟ้อในระยะสั้น ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างมากต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะปานกลาง นอกจากนี้ ยังย้าถึงความจาเป็นในการใช้มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่ เพื่อให้ความช่วยเหลือครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน และมีความจาเป็นต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง +/- กลุ่มธนาคาร: ธปท. เผยเพื่อให้มั่นใจว่าระดับเงินกองทุนและเงินสารองมีเพียงพอต่อเนื่องในระยะ 3 ปี (ปี 2020-22) จึงได้สั่งการให้ธนาคารจัดทา Stress Test ในปี 2021-22 ด้วย ซึ่งมีกาหนดให้ส่งผลการจัดทาเข้ามาภายในเดือน ต.ค. นี้

แนะนำ เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BEM PSL MINT

หุ้นแนะนำเก็งกำไรวันนี้: AOT GULF PTL PRM

Derivatives: เปิด Long S50U20P850 เก็งกำไรหรือประกันความเสี่ยงพอร์ตลงทุน (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)