ศธ. มีหนังสือด่วนให้รับฟังความคิดเกี่ยวกับการเมืองของนักเรียน

ศธ. มีหนังสือด่วนให้รับฟังความคิดเกี่ยวกับการเมืองของนักเรียน

ศธ. มีหนังสือด่วน ถึงหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ให้เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการพัฒนา ระบบการศึกษาและการเมือง ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ

วันที่ 20 ส.ค.2563 นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และโฆษก ศธ. เปิดเผยว่า ตามที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ให้โรงเรียนเปิดกว่างเพื่อรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน และให้รวบรวมข้อคิดเห็นและสรุปแนวทางแก้ปัญหา นั้น ในวันนี้ สำนักงานปลัด ศธ. ได้ ออกหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง การเปิดรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นักศึกษา เพื่อส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ถึงหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด

ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เพื่อแจ้งไปยังสถานศึกษาในสังกัด โดยมีเนื้อหาว่า

เนื่องด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันกิจกรรมการแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการศึกษา อาทิ หลักสูตรการเรียนการสอน เครื่องแบบนักเรียน และทรงผมนักเรียนและการแสดงออกทางการเมืองของนักเรียน นักศึกษา มีการรวมกลุ่มในหลายระดับและขยายตัวในวงกว้างมากขึ้น

ทั้งนี้การแสดงความคิดเห็นของนักเรียน นักศึกษา ถือว่าสามารถทำได้ โดยเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ ศธ. จึงเห็นควรให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับศธ. เปิดรับฟังความเห็นของนักเรียน นักศึกษา ในประเด็นที่เกี่ยวกับการพัฒนา ระบบการศึกษาและการเมือง ดังนี้

1. ให้สถานศึกษาเปิดรับฟังความเห็นของนักเรียน นักศึกษา โดยนักเรียน นักศึกษาแสดงความคิดเห็นผ่านกิจกรรมของสภานักเรียน หรือ องค์กร/กลุ่ม ซึ่งเป็นผู้แทนนักเรียน นักศึกษาในระดับสถานศึกษา ทั้งนี้ ขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาคำนึงถึงการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและความปลอดภัยของนักเรียน นักศึกษา2.ผู้บริหารสถานศึกษา นำข้อเสนอของนักเรียน นักศึกษา เสนอต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือ หน่วยงานต้นสังกัดในพื้นที่3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ หน่วยงานต้นสังกัดในพื้นที่ ดำเนินการรวบรวมและจัดทำสรุปผลการเปิดรับฟังความเห็นของนักเรียน นักศึกษา ในภาพรวมของจังหวัด เสนอต่อหัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัด4. หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัด จัดทำสรุปผลการเปิดรับฟังความเห็นของนักเรียน นักศึกษาในภาพรวมของหน่วยงาน และขอความอนุเคราะห์จัดส่งข้อมูลมายังสำนักบูรณาการกิจการการศึกษา สป.ที่อีเมล [email protected] ภายในวันที่ 15 กันยายน เพื่อเสนอผู้บริหารกระทรวงต่อไป

อนึ่ง การปฏิบัติตามระเบียบศธ. ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ลงวันที่ 30 มี.ค. สถานศึกษาได้ดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวตามข้อ 7 แตกต่างกันไปจนเกิดปัญหาต่อนักเรียน นักศึกษาบางส่วน ซึ่งศธ.อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนรายละเอียดของระเบียบดังกล่าว

ทั้งนี้ ในขั้นต้นรัฐมนตรีว่าการ ศธ.มี นโยบายขอให้งดการดำเนินการตามระเบียบข้อ 7 ไว้พลางก่อนในการนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาแล้วเห็นสมควรแจ้งหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของท่าน รับทราบและดำเนินการตามแนวทางการเปิดรับฟังความเห็นของนักเรียนนักศึกษา ดังกล่าวข้างต้น เพื่อส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ 2560

      ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นนักเรียน ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยกร่างคำสั่งในเรื่องดังกล่าว ซึ่งคงไม่มีปัญหาอะไรในการที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน และยิ่งเป็นความคิดเห็นเหมือนกับที่ตนได้รับฟังมาก็น่าจะเป็นประโยชน์กับการศึกษาอย่างแท้จริง และหลังจากนั้น ศธ.ก็จะใช้เวลารวบรวมข้อมูลและมาจัดกลุ่มปัญหา ว่า เรื่องใดเป็นปัญหาหลัก เรื่องไหนทำได้ หรือทำไม่ได้ เรื่องใดต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา

      อย่างไรก็ตามยินดีต้อนรับกลุ่มนักเรียน กลุ่มผู้บริหาร และกลุ่มครู เพราะจากข้อเรียกร้องของกลุ่มนักเรียนเลว ตนได้เห็นแล้วว่า เด็กไม่ได้เรียกร้องให้แต่เฉพาะกลุ่มของพวกเขา แต่ข้อเรียกร้องยังคำนึงถึงเพื่อนนักเรียนที่ได้ผล กระทบทางการศึกษา ครูที่มีภาระงานมากเกินไป ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีใจที่เยาวชนของชาตินึกถึงเรื่องเหล่านี้

ส่วนความคิดเห็นทางการเมืองนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้มีปัญหาอะไร หากเราได้มาพูดคุยกันก็จะสามารถหาทางออกได้ ทั้งนี้สำหรับข้อเสนอเรื่องการปรับปรุงหนังสือเรียนนั้น ตนจะให้ทีมงานศึกษาในรายละเอียดและความเหมาะสมของตำราเรียน ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมา รวมถึงข้อมูลจากการรับฟังความคิดเห็นอื่นๆ ก็น่าจะมีแนวทางที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้

   

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการนั้นตนมองว่าโรงเรียนไหนที่ยังมีความกดดัน และมีข้อเรียกร้องจากนักเรียนก็สามารถเปิดเวทีผ่านคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู หรือกระบวนการสภานักเรียนในการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งตนมั่นใจว่าหลายเรื่องจะสะท้อนความอึดอัดใจทั้งครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา สามารถที่จะแสดงความคิดเห็น หรือมีข้อเสนอได้

   “หลายฝ่ายอาจจะมองเรื่องนี้ ว่า เป็นวิกฤตหรือไม่ ผมมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เราได้มองไปในทิศทางเดียวกัน จริงๆ อนาคตของพวกเราก็อยู่ในมือของเด็ก ดังนั้นเรื่องไหนที่พวกเขาเห็นว่า การขับเคลื่อนเรื่องไหนที่เหมาะสมและเป็นสิ่งที่ดีกับอนาคตก็ควรรับพิจารณา อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มนักเรียนเลวจะมาเคลื่อนไหวอีก ผมก็ไม่มีปัญหา เพราะจริงๆ แล้ว ผมต้องการที่จะให้เข้ามาพูดคุยภายในบริเวณของ ศธ.อย่างสันติวิธีด้วย และผมยังรู้สึกว่าเสียโอกาสในการพูดคุยกับนักเรียนหรือแกนนำโดยตรง เพียงแต่ได้พูดคุยกับตัวแทนนักเรียนเท่านั้น ซึ่งผมไม่ได้จะขึ้นเวทีพูด แต่ผมพร้อมจะรับฟัง”รมว.ศธ.กล่าว