‘ไต้หวัน’ มองไกลตั้งเป้า 'ศูนย์กลางการเงินเอเชีย' แทนฮ่องกง

‘ไต้หวัน’ มองไกลตั้งเป้า 'ศูนย์กลางการเงินเอเชีย' แทนฮ่องกง

"ปธน.ไต้หวัน" รุกคืบเปิดเสรีเศรษฐกิจเพิ่ม หวังขึ้นแท่นเป็น "ศูนย์กลางการเงินเอเชีย" ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองฮ่องกงปั่นป่วน

ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวันเปิดเผยว่า ไต้หวันจะทำการเปิดเสรีเศรษฐกิจต่อไป และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินและบริหารสินทรัพย์ของภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ศูนย์กลางการเงินอย่างฮ่องกงกำลังเผชิญกับภาวะปั่นป่วนทางการเมือง

นางสาวไช่ กล่าวกับกลุ่มธุรกิจ Third Wednesday Club เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) ว่า บริษัทต่างประเทศมีความสนใจในไต้หวันมากขึ้น โดยระบุว่า บริษัทชั้นนำ เงินทุน ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีจากต่างประเทศจำนวนมากขึ้นให้ความสนใจ และเพิ่มการลงทุนมากขึ้นในไต้หวัน 

“รัฐบาลจะยังคงใช้มาตรการเปิดกว้างมากขึ้น เพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ขยายขอบเขตธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่งของเรา และทำให้ไต้หวันกลายเป็นศูนย์กลางการเงินธุรกิจของเอเชีย และศูนย์กลางการจัดการสินทรัพย์ระดับสูง” นางสาวไช่กล่าว

ทั้งนี้ ไต้หวันซึ่งพึ่งพาการส่งออกและมีเศรษฐกิจที่เปิดกว้างอย่างมากอยู่แล้ว กำลังพยายามที่จะลดการพึ่งพาการค้ากับจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด แต่ก็เป็นคู่แข่งทางการเมืองด้วย เนื่องจากจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนของจีน

นอกจากนี้ ความไร้เสถียรภาพของฮ่องกงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงนั้น ได้ทำให้เกิดคำถามว่า ฮ่องกงจะยังคงสามารถเป็นศูนย์กลางการเงินหลักของภูมิภาคเอเชียได้นานเพียงใด

รอยเตอร์ รายงานอีกว่า ไต้หวันยังไม่มีแนวโน้มที่จะขึ้นมาแทนที่ฮ่องกงในเร็วๆ นี้ แต่รัฐบาลไต้หวันก็หวังที่จะฉวยโอกาสนี้เพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญและเงินทุนจากฮ่องกง