‘ณพ’ เร่งกู้ภาพลักษณ์ ‘วินด์ เอนเนอร์ยี่’ เดินหน้าเข้าตลาดหุ้น

‘ณพ’ เร่งกู้ภาพลักษณ์ ‘วินด์ เอนเนอร์ยี่’ เดินหน้าเข้าตลาดหุ้น

“ณพ ณรงค์เดช” เผย เตรียมเร่งกู้ภาพลักษณ์ “วินด์ เอนเนอร์ยี่” หวังสร้างความเชื่อมั่น ก่อนเข้าระดมทุนขายไอพีโอ ฯหลังมีกระแสข่าวลบกระทบต่อเนื่อง ยัน คดีความส่วนตัวไม่มีผลต่อการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

วานนี้ (19 ส.ค.) “ณพ ณรงค์เดช” ตั้งโต๊ะแถลงข่าวครั้งแรกหลังมีกระแสข่าว ผู้ถือหุ้นบางคนพยายามรวบรวมเสียงเพื่อปลดออกตำแหน่งผู้บริหาร  จากความไม่พอใจการบริหารงานและมีคดีความที่อาจกระทบต่อแผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

 นายณพ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH กล่าวว่า  ส่วนตัวยืนยันว่าปัจจุบันยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงความตั้งใจที่จะนำWEH เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากตั้งแต่วันที่เข้ามาลงทุนได้รับปากทางผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเอาไว้ว่าจะทำให้ได้และมั่นใจว่าต้องทำสำเร็จ

ทั้งนี้มองว่าสิ่งที่จะทำหลังจากนี้คือการพยายามกู้ภาพลักษณ์บริษัทให้กลับมาโดยเร็ว เนื่องจากกระแสข่าวที่ถูกโจมตีในช่วงก่อนหน้านี้พยายามที่ดิสเครดิตตนเองและมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัท ในสายตาบุคคลภายนอกอย่างมาก ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะสมและอยากขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้เลย พร้อมยืนยันว่าในส่วนของเรื่องคดีความของตนเองที่มีทางนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ถือหุ้นเดิม WEH และครอบครัวนั้นไม่ได้มีผลต่อโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัทและการยื่นเรื่องขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของบริษัทและดุลยพินิจของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ขณะที่ในส่วนของคดีกับนายนพพรนั้น เจ้าตัวระบุว่าการชำระค่าหุ้น 2 งวดแรกได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยกรณีที่นายนพพรมาฟ้องเพื่อยกเลิกการขายหุ้นให้กับตน ซึ่งอนุญาโตตุลาการก็ตัดสินว่าการยกเลิกการขายหุ้นไม่ได้ ขณะที่ในส่วนของกรณีที่ครอบครัวมาฟ้องตนที่ฮ่องกงนั้น เรื่องนี้ศาลฮ่องกงได้ยกคดีทิ้งไปทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงการฟ้องในศาลไทยที่ยังไม่จบโดยอยู่ในกระบวนการศาลชั้นต้น แต่เชื่อมั่นในพยานหลักฐานที่มี

ส่วนการเตรียมความพร้อมของบริษัทในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มองว่าปัจจุบันคืบหน้าไปมากกว่า 50% แล้ว ซึ่งก็เหลือรายละเอียดกระบวนการแปลงจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชน และปัญหาที่บริษัทต้องรีบแก้ไข เช่น ปัญหาที่ดิน,ผู้ถือหุ้นที่มีกว่า 200 ราย และภาพลักษณ์องค์กร เป็นต้น

“การออกมาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านมาเจอกระแสข่าวโจมตีที่กระทบต่อภาพลักษณ์บริษัทจึงเป็นเหตุให้ตนเองต้องออกมาเคลียร์ประเด็นปัญหาต่างๆในครั้งนี้”

นายณพ กล่าวต่อว่าในส่วนของเรื่องกระแสข่าวผู้ถือหุ้นบางคนพยายามรวบรวมเสียงเพื่อขับไล่ตนเองออกจากการบริหารงานนั้น มองว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ถือหุ้น แต่เชื่อว่าตอนนี้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทยังไม่นิ่งและยังมีความไม่แน่นอนอยู่ เนื่องทราบมาว่าอาจมีการยกเลิกการซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นบางราย เพราะยังชำระราคากันไม่ครบ โดยปัจจุบันกลุ่มตนถือหุ้นอยู่ในนามบริษัท โกลเด้น มิวสิค ลิมิเต็ด ประมาณ 40%

“เรื่องความไม่ไว้วางใจในการบริหารนั้น ปัจจุบันเราก็มีกรรมการตรวจสอบอยู่แล้ว ซึ่งเรายังเชื่อมั่นในกลไกที่มีอยู่และยังมีแผนที่จะปรับเพิ่มกรรมการอิสระเพิ่มขึ้นอีกด้วย”